ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เผย เจ้าหน้าที่ตามจับชาวอุยกูร์หลบหนีจากตม.หนองคายได้ครบแล้วทั้ง 10 คน พร้อมสั่งตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่คุมตัวบกพร่องหรือไม่
วันที่ 20 กันยายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ. วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเกิดเหตุผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ จำนวน 10 คน หลบหนีออกจากห้องกักด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย โดยอาศัยช่วงคืนที่ผ่านมามีฝนตกฟ้าคะนอง เจ้าหน้าที่ไม่ทันได้ยินเสียงความผิดปกติ รวมตัวกันดึงเอาเหล็กดัดที่ติดตั้งบนฝ้าเพดานออก เจาะฝ้าเพดานให้ทะลุ ก่อนจะนำเอาเสื้อผ้ามาผูกเป็นปมโรยตัวหลบหนีออกด้านนอก พร้อมตัดลวดหนามบริเวณด้านหลังหลบหนีออกไป
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ และตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้ลงพื้นที่ติดตามตัวแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.หนองคาย
สำหรับรายชื่อชาวอุยกูร์ที่หลบหนี 10 ราย มีดังนี้ ..
- นายราชิต ฮัสฮิม อายุ 22 ปี
- นายคีลิค มาฮัม อายุ 38 ปี
- นายเซเกต บายบาร์ส อายุ 41 ปี
- นายมุสตาฟา คาเมล อายุ 27 ปี
- นายยูซุป อาลี อายุ 34 ปี
- นายมะหมูด เยฮาล อายุ 29 ปี
- นายอาหมัด ตูรัก อายุ 28 ปี
- นายยาร์มาโต้ มูตีดี อายุ 30 ปี
- นายมูฮัมหมัด ยูซุป อายุ 36 ปี
- นายอับดุล มาห์มุด อายุ 20 ปี
![จับชาวอุยกูร์ จับชาวอุยกูร์]()
ล่าสุด มีรายงานว่า พลตำรวจโท ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับหัวหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีการควบคุมตัวชาวอุยกูร์ ซึ่งทั่วประเทศมีอยู่ทั้งหมด 55 คน โดยประเด็นมุ่งเป้าสอบถามชาวอุยกูร์ 7 คน อุซเบกิสถาน 1 คน ปากีสถาน 2 คน รวม 10 คน หลบหนีออกจากห้องควบคุมตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคายเมื่อเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา
![ชาวอุยกูร์ ชาวอุยกูร์]()
ทั้งนี้ผู้ต้องกักทั้ง 10 คน ใช้ตัวโหนเปิดโครงเหล็กบนฝ้าเพดานแล้วปีนขึ้นไปออกช่องเพดาน แล้วใช้เสื้อผ้าโรยตัวหลบหนี โดยอาศัยช่วงที่เกิดพายุฝนตกหนัก และกระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างก่อเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปูพรมไล่ล่าจนพบรอยเท้าที่ป่าช้า วัดหนองขาม ห่างจากห้องควบคุมตัว 4-5 กิโลเมตร จึงปิดล้อมจับกุมได้จำนวน 9 คน เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา และระหว่างแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้พบผู้ต้องหาอีก 1 คน ซ่อนตัวอยู่ในบ่อน้ำใกล้กับจุดที่พบผู้ต้องหาชุดแรก ซึ่งหลังจากนี้จะประสานล่ามเพื่อมาสอบสวนถึงสาเหตุการหลบหนี ส่วนการควบคุมตัวผู้ต้องกักที่จับได้ จะกระจายไปยังห้องควบคุมตรวจคนเข้าเมืองในจังหวัดใกล้เคียงที่มีความมั่นคง
นอกจากนี้ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาเอาผิดกับตำรวจที่ดูแลผู้ต้องกักอยู่ว่าบกพร่องในส่วนใดผู้ต้องกักถึงหลบหนีไปได้ และให้มาช่วยราชการที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 จนกว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จ
สำหรับผู้ต้องกักทั้ง 10 คน ถูกควบคุมตัวในระหว่างปี 2557-2558 ในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และถูกส่งตัวไปควบคุมตัวที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคายมาประมาณ 3 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการให้ลดความแออัด รวมทั้งผู้ต้องกักมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากประชาชนในพื้นที่ และหากหลบหนีก็จะสามารถเห็นความแตกต่างได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

วันที่ 20 กันยายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ. วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเกิดเหตุผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ จำนวน 10 คน หลบหนีออกจากห้องกักด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย โดยอาศัยช่วงคืนที่ผ่านมามีฝนตกฟ้าคะนอง เจ้าหน้าที่ไม่ทันได้ยินเสียงความผิดปกติ รวมตัวกันดึงเอาเหล็กดัดที่ติดตั้งบนฝ้าเพดานออก เจาะฝ้าเพดานให้ทะลุ ก่อนจะนำเอาเสื้อผ้ามาผูกเป็นปมโรยตัวหลบหนีออกด้านนอก พร้อมตัดลวดหนามบริเวณด้านหลังหลบหนีออกไป
สำหรับรายชื่อชาวอุยกูร์ที่หลบหนี 10 ราย มีดังนี้ ..
- นายราชิต ฮัสฮิม อายุ 22 ปี
- นายคีลิค มาฮัม อายุ 38 ปี
- นายเซเกต บายบาร์ส อายุ 41 ปี
- นายมุสตาฟา คาเมล อายุ 27 ปี
- นายยูซุป อาลี อายุ 34 ปี
- นายมะหมูด เยฮาล อายุ 29 ปี
- นายอาหมัด ตูรัก อายุ 28 ปี
- นายยาร์มาโต้ มูตีดี อายุ 30 ปี
- นายมูฮัมหมัด ยูซุป อายุ 36 ปี
- นายอับดุล มาห์มุด อายุ 20 ปี

ล่าสุด มีรายงานว่า พลตำรวจโท ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับหัวหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีการควบคุมตัวชาวอุยกูร์ ซึ่งทั่วประเทศมีอยู่ทั้งหมด 55 คน โดยประเด็นมุ่งเป้าสอบถามชาวอุยกูร์ 7 คน อุซเบกิสถาน 1 คน ปากีสถาน 2 คน รวม 10 คน หลบหนีออกจากห้องควบคุมตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคายเมื่อเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ผู้ต้องกักทั้ง 10 คน ใช้ตัวโหนเปิดโครงเหล็กบนฝ้าเพดานแล้วปีนขึ้นไปออกช่องเพดาน แล้วใช้เสื้อผ้าโรยตัวหลบหนี โดยอาศัยช่วงที่เกิดพายุฝนตกหนัก และกระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างก่อเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปูพรมไล่ล่าจนพบรอยเท้าที่ป่าช้า วัดหนองขาม ห่างจากห้องควบคุมตัว 4-5 กิโลเมตร จึงปิดล้อมจับกุมได้จำนวน 9 คน เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา และระหว่างแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้พบผู้ต้องหาอีก 1 คน ซ่อนตัวอยู่ในบ่อน้ำใกล้กับจุดที่พบผู้ต้องหาชุดแรก ซึ่งหลังจากนี้จะประสานล่ามเพื่อมาสอบสวนถึงสาเหตุการหลบหนี ส่วนการควบคุมตัวผู้ต้องกักที่จับได้ จะกระจายไปยังห้องควบคุมตรวจคนเข้าเมืองในจังหวัดใกล้เคียงที่มีความมั่นคง
นอกจากนี้ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาเอาผิดกับตำรวจที่ดูแลผู้ต้องกักอยู่ว่าบกพร่องในส่วนใดผู้ต้องกักถึงหลบหนีไปได้ และให้มาช่วยราชการที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 จนกว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จ
สำหรับผู้ต้องกักทั้ง 10 คน ถูกควบคุมตัวในระหว่างปี 2557-2558 ในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และถูกส่งตัวไปควบคุมตัวที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคายมาประมาณ 3 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการให้ลดความแออัด รวมทั้งผู้ต้องกักมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากประชาชนในพื้นที่ และหากหลบหนีก็จะสามารถเห็นความแตกต่างได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
