วิทยาศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องยากและซับซ้อนสำหรับเด็กอีกต่อไป เพียงพวกเขาได้ลองทำ 7 การทดลองแสนสนุกสุดหรรษาที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ รับรองได้เลยว่าบ้านไหนมีเด็ก ๆ ห้ามพลาดเป็นอันขาด
เชิญพบกับกิจกรรมการทดลองที่แฝงไปด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เหมาะกับเด็ก ๆ สามารถทำเล่นได้ภายในครอบครัวด้วยวัสดุอุปกรณ์หาง่ายภายในบ้าน เรียกได้ว่าทั้งสนุกและได้ความรู้ ตามมาดูกันดีกว่าว่ามีการทดลองทางวิทยาศาสตร์เจ๋ง ๆ อะไรบ้าง
1. เทียนไขดูดน้ำ
เริ่มจากจุดเทียนไขลงบนภาชนะ และเทน้ำผสมสีลงไปรอบเทียนไขเพื่อให้เห็นผลการทดลองที่ชัดเจนขึ้น หลังจากใช้แก้วครอบเทียนไขที่จุดไฟแล้ว จะเห็นได้ว่าไฟดับและน้ำรอบแก้วไหลเข้าไปอยู่ภายในแก้วได้
ทำไมน้ำถึงไหลเข้าไปในแก้วได้ ?
เหตุผลที่เทียนไขสามารถดูดน้ำเข้าไปในแก้วได้ เนื่องจากแรงดันอากาศภายในแก้วลดลง และแรงดันอากาศภายนอกแก้วมีมากกว่าจึงดันน้ำให้ไหลเข้ามานั่นเอง
2. ถุงน้ำมหัศจรรย์
ทำไมน้ำถึงไหลเข้าไปในแก้วได้ ?
เหตุผลที่เทียนไขสามารถดูดน้ำเข้าไปในแก้วได้ เนื่องจากแรงดันอากาศภายในแก้วลดลง และแรงดันอากาศภายนอกแก้วมีมากกว่าจึงดันน้ำให้ไหลเข้ามานั่นเอง
2. ถุงน้ำมหัศจรรย์
ลองใส่น้ำลงไปในถุงพลาสติกหรือลูกโป่ง ถือหรือมัดให้ตึง จากนั้นก็ใช้ดินสอปลายแหลม หรือไม้เสียบลูกชิ้นแทงให้ทะลุไปอีกฝั่งหนึ่ง จะเห็นว่าน้ำไม่รั่วไหลออกมาเลย
ทำไมน้ำถึงไม่รั่ว ?
เหตุผลที่น้ำไม่รั่วออกจากถุง เพราะถุงพลาสติกมีคุณสมบัติที่สามารถยืดออกได้เล็กน้อย พอกดแทงดินสอหรือไม้เสียบลูกชิ้นให้ทะลุอีกฝั่ง ผิวถุงรอบรูจะยืดออกและหดกลับคืนรูปเดิมจึงรัดดินสอแน่น ทำให้น้ำไม่รั่วออกจากถุง
ทำไมน้ำถึงไม่รั่ว ?
เหตุผลที่น้ำไม่รั่วออกจากถุง เพราะถุงพลาสติกมีคุณสมบัติที่สามารถยืดออกได้เล็กน้อย พอกดแทงดินสอหรือไม้เสียบลูกชิ้นให้ทะลุอีกฝั่ง ผิวถุงรอบรูจะยืดออกและหดกลับคืนรูปเดิมจึงรัดดินสอแน่น ทำให้น้ำไม่รั่วออกจากถุง
3. น้ำแข็งร้อน
นำน้ำเปล่าผสมกับโซเดียมอะซีเตต แล้วนำไปละลายด้วยไมโครเวฟ ทิ้งไว้อุณหภูมิห้องประมาณ 15 นาที แล้วเอาไปแช่เย็นประมาณ 10 นาที จากนั้นเอาน้ำเย็นออกมาแล้วลองใช้นิ้วสัมผัสกับผิวของน้ำเย็นดู จะเห็นว่าน้ำซึ่งเป็นของเหลวจะตกผลึกกลายเป็นคริสตัลหรือน้ำแข็งเกล็ดและมีอุณหภูมิร้อนขึ้นมา
ทำไมน้ำจึงแข็งตัวได้ ?
เหตุผลที่ทำให้ของเหลวกลายเป็นน้ำแข็ง เนื่องจากโซเดียมอะซีเตตมีปฏิกิริยาคายความร้อนออกมา ทำให้เกิดการตกผลึกและมีอุณหภูมิร้อนด้วย
ทำไมน้ำจึงแข็งตัวได้ ?
เหตุผลที่ทำให้ของเหลวกลายเป็นน้ำแข็ง เนื่องจากโซเดียมอะซีเตตมีปฏิกิริยาคายความร้อนออกมา ทำให้เกิดการตกผลึกและมีอุณหภูมิร้อนด้วย
4. จะเกิดอะไรขึ้นกับน้ำ ?
ในคลิปนี้จะแนะนำการทดลองวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับน้ำหลายรูปแบบ เราลองไปดูกัน
การทดลองที่ 1
เตรียมแก้วน้ำใบเล็ก 2 ใบ กับสีผสมอาหารต่างกัน 2 สี แก้วใบแรกเทน้ำเย็น อีกแก้วเทน้ำร้อน จากนั้นหยดสีผสมอาหารลงไปในแต่ละแก้ว จะสังเกตเห็นว่าสีผสมอาหารที่หยดลงในน้ำเย็นไม่ผสมกับน้ำ และพอเอาแก้วน้ำร้อนวางบนแก้วน้ำเย็น น้ำในแก้วน้ำร้อนก็ไม่ผสมกับน้ำในแก้วน้ำเย็นเลยด้วย
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?
เหตุผลที่ทำให้สีผสมอาหารในน้ำเย็นไม่ผสมกับน้ำ เนื่องจากน้ำเย็นมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำร้อน สีผสมอาหารจึงอยู่ด้านล่าง และไม่ผสมกับน้ำร้อนนั่นเอง
การทดลองที่ 2
เทน้ำมันพืชลงในภาชนะ แล้วเทน้ำเปล่าลงไป จะสังเกตเห็นว่าน้ำเปล่าลงไปรวมตัวกันอยู่ด้านล่าง เมื่อหยดสีผสมอาหารลงไปด้วย สีจะจมลงก้นภาชนะทันที และเมื่อใส่เม็ดฟู่ลงไป เม็ดฟู่ก็จะทำปฏิกิริยากับน้ำตรงก้นภาชนะ เกิดแก๊สเป็นฟองอากาศลอยขึ้นมาและนำสีผสมอาหารขึ้นมาด้วย กลายเป็นตะเกียงลาวาสวยงาม
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?
น้ำกับสีผสมอาหารจมลงก้นภาชนะเป็นเพราะมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำมัน จึงจมอยู่ด้านล่าง แต่เมื่อใส่ยาเม็ดฟู่ลงไป น้ำกับสีผสมอาหารจะลอยเป็นฟองอากาศขึ้นไปด้านบนผิวน้ำและแตกตัวตกลงไปข้างล่าง ด้วยความหนาแน่นที่มากกว่าน้ำมันนั่นเอง
การทดลองที่ 1
เตรียมแก้วน้ำใบเล็ก 2 ใบ กับสีผสมอาหารต่างกัน 2 สี แก้วใบแรกเทน้ำเย็น อีกแก้วเทน้ำร้อน จากนั้นหยดสีผสมอาหารลงไปในแต่ละแก้ว จะสังเกตเห็นว่าสีผสมอาหารที่หยดลงในน้ำเย็นไม่ผสมกับน้ำ และพอเอาแก้วน้ำร้อนวางบนแก้วน้ำเย็น น้ำในแก้วน้ำร้อนก็ไม่ผสมกับน้ำในแก้วน้ำเย็นเลยด้วย
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?
เหตุผลที่ทำให้สีผสมอาหารในน้ำเย็นไม่ผสมกับน้ำ เนื่องจากน้ำเย็นมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำร้อน สีผสมอาหารจึงอยู่ด้านล่าง และไม่ผสมกับน้ำร้อนนั่นเอง
การทดลองที่ 2
เทน้ำมันพืชลงในภาชนะ แล้วเทน้ำเปล่าลงไป จะสังเกตเห็นว่าน้ำเปล่าลงไปรวมตัวกันอยู่ด้านล่าง เมื่อหยดสีผสมอาหารลงไปด้วย สีจะจมลงก้นภาชนะทันที และเมื่อใส่เม็ดฟู่ลงไป เม็ดฟู่ก็จะทำปฏิกิริยากับน้ำตรงก้นภาชนะ เกิดแก๊สเป็นฟองอากาศลอยขึ้นมาและนำสีผสมอาหารขึ้นมาด้วย กลายเป็นตะเกียงลาวาสวยงาม
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?
น้ำกับสีผสมอาหารจมลงก้นภาชนะเป็นเพราะมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำมัน จึงจมอยู่ด้านล่าง แต่เมื่อใส่ยาเม็ดฟู่ลงไป น้ำกับสีผสมอาหารจะลอยเป็นฟองอากาศขึ้นไปด้านบนผิวน้ำและแตกตัวตกลงไปข้างล่าง ด้วยความหนาแน่นที่มากกว่าน้ำมันนั่นเอง
5. ภูเขาไฟลาวา
สร้างภูเขาไฟง่าย ๆ ด้วยการใช้ดินน้ำมันปั้นภูเขาไฟขึ้นมา เติมสีผสมอาหารและน้ำส้มสายชูลงไปในปล่องภูเขาไฟ สุดท้ายใส่เบกกิ้งโซดาลงไปรอสักครู่ ภูเขาไฟพร้อมจะระเบิดลาวาออกมาแล้ว
ทำไมลาวาจึงปะทุตัวระเบิดออกมา ?
เหตุผลที่ทำให้เกิดเป็นภูเขาไฟลาวา เพราะปฏิกิริยาของเบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูที่เติมลงไปทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นฟองฟู่ขึ้นมา
ทำไมลาวาจึงปะทุตัวระเบิดออกมา ?
เหตุผลที่ทำให้เกิดเป็นภูเขาไฟลาวา เพราะปฏิกิริยาของเบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูที่เติมลงไปทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นฟองฟู่ขึ้นมา
6. กักน้ำไว้ในแก้ว
เริ่มจากใส่น้ำลงไปให้เต็มแก้ว แล้วใช้กระดาษแข็งปิดปากแก้ว พอคว่ำแก้วลงและปล่อยมือ ไม่น่าเชื่อว่ากระดาษยังปิดปากแก้วอยู่และน้ำก็ไม่หกออกมาด้วย
ทำไมกระดาษถึงไม่ตกลงมา ?
เหตุผลเป็นเพราะอากาศข้างนอกมีมากกว่าข้างในแก้ว แรงดันอากาศข้างนอกจึงดันไม่ให้กระดาษตกลงมานั่นเอง
ทำไมกระดาษถึงไม่ตกลงมา ?
เหตุผลเป็นเพราะอากาศข้างนอกมีมากกว่าข้างในแก้ว แรงดันอากาศข้างนอกจึงดันไม่ให้กระดาษตกลงมานั่นเอง
7. หมึกลอยได้
ใช้ปากกาไวท์บอร์ดวาดรูปลงบนจานกระเบื้องหรือจานเซรามิก พักทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นเทน้ำเปล่าลงไป เพียงเท่านี้ภาพวาดก็จะลอยน้ำได้แล้ว
ทำไมภาพวาดจึงลอยน้ำได้ ?
เหตุผลเป็นเพราะในปากกาไวท์บอร์ดประกอบด้วย แอลกอฮอล์ สี และน้ำมัน เวลาวาดภาพลงไปแล้วทิ้งไว้ แอลกอฮอล์ก็จะระเหย เหลือเพียงแค่สีและน้ำมัน ทีนี้พอเทน้ำลงไป น้ำก็จะไปแทรกกลางระหว่างสีและน้ำมัน จะมีเพียงสีที่ลอยขึ้นเหนือน้ำ เราก็จะเห็นภาพวาดหมึกลอยได้แล้ว
จบกันไปแล้วสำหรับ 7 กิจกรรมการทดลองแสนสนุก อัดแน่นไปด้วยสาระความรู้ ซึ่งเราหวังว่ากิจกรรมดี ๆ เหล่านี้จะมีส่วนช่วยให้การเรียนวิทยาศาสตร์ของคุณหนู ๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในครอบครัวอีกด้วย
ทำไมภาพวาดจึงลอยน้ำได้ ?
เหตุผลเป็นเพราะในปากกาไวท์บอร์ดประกอบด้วย แอลกอฮอล์ สี และน้ำมัน เวลาวาดภาพลงไปแล้วทิ้งไว้ แอลกอฮอล์ก็จะระเหย เหลือเพียงแค่สีและน้ำมัน ทีนี้พอเทน้ำลงไป น้ำก็จะไปแทรกกลางระหว่างสีและน้ำมัน จะมีเพียงสีที่ลอยขึ้นเหนือน้ำ เราก็จะเห็นภาพวาดหมึกลอยได้แล้ว
จบกันไปแล้วสำหรับ 7 กิจกรรมการทดลองแสนสนุก อัดแน่นไปด้วยสาระความรู้ ซึ่งเราหวังว่ากิจกรรมดี ๆ เหล่านี้จะมีส่วนช่วยให้การเรียนวิทยาศาสตร์ของคุณหนู ๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในครอบครัวอีกด้วย