จากเหตุการณ์สลดสะเทือนใจ กรณีเครื่องบินบรรทุกทีมฟุตบ อลสโมสรชาเปโคเอนเซ่ ของบราซิล ตกที่ประเทศโคลอมเบีย จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 71 ราย จากจำนวนทั้งหมด 77 ราย และเหลือรอดชีวิตมาได้เพียง 6 รายนั้น
ในขณะที่เครื่องบินเริ่มมีปัญหาเกี่ยบกับระบบไฟฟ้า
ผู้โดยสารต่างพากันหวาดกลัว ลุกออกมาจากที่นั่งและร้องตะโกน
จนกระทั่งเครื่องเริ่มดิ่งลงสู่ไหล่เขา
และสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขารอดชีวิตมาได้
เป็นเพราะปฏิบัติตามขั้นตอนรักษาความปลอดภัยกรณีฉุกเฉิน
โดยการ "นำกระเป๋ามาวางสอดไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง พร้อมกับจัดสภาพร่างกายเก็บคอ งอเข่า ทำท่าลักษณะคล้ายกับทารกในครรภ์" (I saved myself because I followed the emergency protocol, putting bags between my legs and put myself in the fetal position.)
ทั้งนี้ สิ่งที่นายทูมิริพูดเปรียบเทียบว่าทำท่าเหมือนทารกในครรภ์ ก็คือหลักปฏิบัติ เก็บคอ งอเข่า เท้าชิด งอตัวโน้มศีรษะลงมา เพื่อความปลอดภัยในกรณีเกิดเหตุเครื่องบินตกนั่นเอง
ทั้งนี้ สิ่งที่นายทูมิริพูดเปรียบเทียบว่าทำท่าเหมือนทารกในครรภ์ ก็คือหลักปฏิบัติ เก็บคอ งอเข่า เท้าชิด งอตัวโน้มศีรษะลงมา เพื่อความปลอดภัยในกรณีเกิดเหตุเครื่องบินตกนั่นเอง
ซีมินา ซัวเรซ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสาว เป็นอีกหนี่งรายที่รอดชีวิตจากเหตุครั้งนี้ เธอจำได้เพียงว่า ไฟดับทั้งหมดก่อนที่เครื่องจะดิ่งลงพื้น
ส่วนนักฟุตบอลที่รอดชีวิตครั้งนี้ มีด้วยกัน 3 รายคือ อลัน รัสเชล, เฮลิโอ เนโต และแจ็กสัน โฟลล์แมนน์ ผู้รักษาประตูของทีม และรายสุดท้ายที่รอดชีวิตคือ ราฟาเอล วัลลมอร์บิดา นักข่าว
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 11.19 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2559