คืบหน้า เขื่อนในแคลิฟอร์เนียเสี่ยงแตก อนุญาตผู้อพยพ 180,000 ชีวิต กลับบ้านได้แล้ว

          สถานการณ์ เขื่อนออโรวิลล์ ในแคลิฟอร์เนีย คลี่คลายลงแล้ว ทางการอนุญาตประชาชน 180,000 ชีวิตให้กลับบ้านได้ แต่ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

          หลังจากเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดเหตุ สถานการณ์เขื่อนออโรวิลล์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เข้าขั้นวิกฤต เนื่องจากมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นสูงมาก ทำให้อาจจะเกิดการทะลักท่วมจนไม่สามารถควบคุมได้ และเสี่ยงที่จะแตก ทางการจึงได้สั่งเร่งอพยพประชาชนกว่า 180,000 คน ออกจากพื้นที่นอร์เทิร์นแคลิฟอร์เนียเป็นการด่วน เพื่อความปลอดภัย (อ่านข่าว : เขื่อนออโรวิลล์ เสี่ยงแตก-น้ำล้นทะลัก แคลิฟอร์เนียเร่งอพยพเกือบ 2 แสนคน


          ล่าสุด วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักข่าวบีบีซี มีรายงานว่า สถานการณ์เสี่ยงภัยดังกล่าวเริ่มคลี่คลายลง ทางเจ้าหน้าที่แคลิฟอร์เนียได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประชาชนจำนวนกว่า 180,000 ชีวิต ที่ก่อนหน้านี้ให้อพยพออกจากพื้นที่ สามารถกลับไปยังบ้านเรือนของตนเองได้แล้ว แต่ทั้งนี้ได้กำชับให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 


          โดยรายงานก่อนหน้านี้ ระบุว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำของรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ดำเนินการระบายน้ำในปริมาณมากกว่า 2,830 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อที่จะบรรเทาแรงกดดันของสปิลเวย์ แต่ภายหลังก็พบว่า สปิลเวย์ของเขื่อนออโรวิลล์ ที่มีความสูงประมาณ 230 เมตร เกิดความเสียหาย และมีความกังวลว่า บ้านเรือนของประชาชนจำนวนดังกล่าวเสี่ยงที่จะถูกน้ำซัดกลืนหายไป จึงได้สั่งเร่งอพยพประชาชนให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว

          สำหรับ เขื่อนออโรวิลล์ ทอดยาวเป็นระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร ในพื้นที่ทางภาคเหนือของนครแซคราเมนโต ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นสถานการณ์เสี่ยงภัยครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับเขื่อนดังกล่าวในประวัติศาสตร์กว่า 50 ปีที่ผ่านมา


ภาพจาก ทวิตเตอร์ @CHPCommissione