กรมการขนส่งทางบก ยืนยัน การใช้แอพพลิเคชั่นเรียกรถแท็กซี่ไม่ผิดกฎหมาย ยกเว้นเป็นการใช้เพื่อเรียกรถยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) มารับ-ส่งผู้โดยสาร โดยภาครัฐพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการให้บริการให้ถูกต้องภายใต้กรอบของกฎหมายที่สามารถดำเนินการได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกและประโยชน์สูงสุดของประชาชน พร้อมเร่งปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของรถแท็กซี่ในระบบ ควบคู่การผลักดันโครงการ TAXI OK, TAXI VIP ซึ่งจะเป็นการยกระดับการให้บริการแท็กซี่อีกทางหนึ่ง

1.ใช้รถยนต์ผิดประเภทจากที่จดทะเบียนไว้
2.ไม่ใช้มาตรค่าโดยสารตามที่ทางราชการกำหนด
3.ผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ไม่เคยผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
4. ไม่เข้าสู่ระบบทะเบียนของศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก
ซึ่งหากมีอุบัติเหตุหรือเหตุไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ประชาชนจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย และภาครัฐจะไม่สามารถติดตามรถหรือคนขับรถมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้

กรมการขนส่งทางบกตระหนักและให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลการให้บริการขนส่งสาธารณะทางถนนให้มีความปลอดภัยต่อประชาชนสูงสุด จึงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด ทั้งการชี้แจงทำความเข้าใจ การประชาสัมพันธ์แนะนำการใช้บริการรถโดยสารที่ถูกกฎหมายแก่ประชาชน
ตลอดจนกวดขันจับกุมผู้ให้บริการผิดกฎหมายทั้งรถนอกระบบและรถแท็กซี่ในระบบที่กระทำความผิดทุกกรณี เช่น เข้มงวดและลงโทษขั้นสูงสุดกับพนักงานขับรถที่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร หรือไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และเพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยไม่เลือกปฏิบัติหรือทำเพื่อปกป้องประโยชน์ของกลุ่มใด โดยดำเนินการควบคู่กับการปรับปรุงคุณภาพ การให้บริการของรถแท็กซี่ในระบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและจูงใจให้ประชาชนหันกลับมาใช้บริการมากขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นที่ยังไม่ถูกกฎหมาย เช่น Uber และ Grab Car กรมการขนส่งทางบกพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการให้บริการที่ทันสมัยภายใต้กรอบของกฎหมายที่สามารถดำเนินการได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกและประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งในปัจจุบันมีรถแท็กซี่ในระบบเริ่มใช้แอพพลิเคชั่นเป็นสื่อกลางในการบริการ เช่น Grab Taxi และ All Thai Taxi ซึ่งกรมการขนส่งทางบกพร้อมให้การสนับสนุนในทุกมิติ
สำหรับการทำงานในทางคู่ขนาน กรมการขนส่งทางบกได้พัฒนายกระดับมาตรฐานรถแท็กซี่ใหม่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และมั่นใจในความปลอดภัย โดยดำเนินโครงการ TAXI OK และ TAXI VIP โดยโครงการ TAXI-OK เป็นการยกระดับการให้บริการแท็กซี่ในปัจจุบัน มีการติดตั้ง GPS Tracking พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ, กล้อง CCTV, มีปุ่มฉุกเฉิน (ส่งข้อมูล Online มาที่ศูนย์ GPS ทันที), มีระบบแจ้งเตือนการใช้ความเร็ว ระบบควบคุมการไม่เปิดมิเตอร์ รวมถึงจัดทำระบบเรียกใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อเพิ่มความสะดวกและตอบโจทย์การเข้าถึงการให้บริการ และป้องกันปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร ตลอดจนติดตามพฤติกรรมตลอดการให้บริการ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารมากขึ้น

ส่วน TAXI VIP จะเป็นโครงการรถแท็กซี่ชนิดพิเศษ ใช้รถที่มีมาตรฐานขนาดตัวรถและสมรรถนะที่สูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป และมีอุปกรณ์ส่วนควบเพิ่มเติมโครงการ TAXI OK ขึ้นไปอีกระดับ เพื่อเป็นทางเลือกในการให้บริการแก่ประชาชนโดยผู้ประกอบการต้องเป็นนิติบุคคล ที่มีความพร้อมทางธุรกิจ มีแผนการประกอบการแบบมืออาชีพ ซึ่งร่างกฎกระทรวงทั้งสองฉบับได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนส่งกระทรวงคมนาคมลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกแนะนำให้ประชาชนเลือกใช้บริการรถแท็กซี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะ (ป้ายเหลือง) เท่านั้น เนื่องจากเป็นรถที่ผ่านการตรวจสภาพความมั่นคงแข็งแรงปีละ 2 ครั้ง และผู้ขับรถมีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ สามารถตรวจสอบประวัติและติดตามตัวได้ทันทีกรณีที่เกิดเหตุไม่พึงประสงค์ รวมถึงผู้โดยสารจะได้รับการคุ้มครองสิทธิและชดเชยเยียวยาจากผู้ประกอบการตามกฎหมายในทุกกรณี
สำหรับช่องทางรับเรื่องร้องเรียน สามารถติดต่อช่องทางได้ดังนี้
- ทางเว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/
- E-Mail dlt_1584complain@hotmail.com
- Application ชื่อ "ร้องเรียนรถสาธารณะ" หรือ "dlt check-in"
- FACEBOOK ชื่อ "ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584"
- LINE ID ชื่อ "1584dlt"
- ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ (GCC1111) ผ่านระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล สำนักนายกรัฐมนตรี
- ทางจดหมาย/หนังสือร้องเรียน ส่งมายังกรมการขนส่งทางบก หรือร้องเรียนด้วยตนเอง ได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน กองตรวจการขนส่งทางบก อาคาร 3 ชั้น 4