ผู้รอดชีวิตรถบัสตกเหว เผย คนขับปาดหน้าแซงก่อนดิ่งเหว-ได้กลิ่นเบรกไหม้

ผู้รอดชีวิตเหตุรถบัสตกเหว ที่ปราจีนบุรี เผย คนขับปาดหน้ารถคันอื่นก่อนเกิดเหตุ ชี้ทั้งรถได้กลิ่นเบรกไหม้ ด้านแม่ครูผู้ตายเชื่อมีลางบอกเหตุก่อนเสียลูก

จากเหตุการณ์รถบัสโดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ของโรงเรียนพังทุยพัฒนศึกษา อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ตกเหวที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จนเป็นเหตุให้มีครูและนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 ราย และเสียชีวิต 6 ราย ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : รถบัสตกเหว ปราจีนบุรี คณะนักเรียนขอนแก่นไปทัศนศึกษา ดับ 6 บาดเจ็บกว่า 50 ราย)

ล่าสุด วันที่ 10 มีนาคม 2560 ผู้สื่อข่าว ได้มีการไปสอบถามเหตุการณ์กับผู้บาดเจ็บที่รอดชีวิตที่อยู่ในวันเกิดเหตุ โดยนางสาวขวัญพร วรรณสุนทร นักเรียนรายหนึ่ง เล่าว่า ตนและเพื่อน ๆ ได้กลิ่นไหม้ ก่อนที่จะมีนักเรียนคนหนึ่งตั้งใจเดินไปบอกคนขับ แต่ยังไม่ทันไปถึงบริเวณหน้ารถก็เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำทันที ซึ่งเรื่องนี้ นายนพดล ศรีไกรภักดิ์ ผู้ช่วยคนขับ ยอมรับว่า ตนได้กลิ่นเบรกไหม้เช่นกัน ก่อนที่สักพักคนขับจะพยายามควบคุมตัวรถแต่ก็เอาไม่อยู่ จึงทำให้เกิดเหตุน่าเศร้า

ด้านนางสาวปภาวดี กล้าหาญ หนึ่งในนักเรียนที่รอดชีวิต เผยวินาทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุว่า ตอนนั้นทุกอย่างเต็มไปด้วยความมืด ตนจึงเรียกหาเพื่อน ก่อนจะสังเกตเห็นคนโดนทับ จึงไปช่วยขนหินออก นอกจากนี้ ยังเห็นภาพอาจารย์ที่บาดเจ็บขาขาด ซึ่งตนรู้สึกตกใจ และไม่คิดว่าจะรอดชีวิตมาได้

นอกจากนี้ยอมรับว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุ ตนและเพื่อน ๆ ก็กรีดร้องหวาดกลัวพฤติกรรมของคนขับที่ลงเขาด้วยความเร็ว นอกจากนี้ยังดูไม่ชินเส้นทาง และไม่มีการเหยียบเบรก โดยก่อนหน้านั้นก็เพิ่งแซงปาดหน้ารถเล็ก และรถบัสอีกคัน ก่อนจะตกเหว

ขณะที่ นางพัชรินทร์ จันโทริ มารดาของครูที่เสียชีวิต เล่าว่า ครอบครัวตนมาส่งลูกขึ้นรถตอน 3 ทุ่ม ซึ่งตอนนั้นก็ยังรู้สึกปกติ แต่ตอนกลับบ้านรู้สึกเหมือนจะเป็นลม และมีอาการหนาวสั่น จึงเชื่อว่าเป็นลางบอกเหตุ ก่อนที่ต่อมาจะพบว่าลูกเสียชีวิตดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยการวิเคราะห์ของทีมวิศวกร จากกรมขนส่งทางบก โดยคาดว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากความไม่ชำนาญของผู้ขับรถ และอาจยังไม่ชินกับเส้นทาง ประกอบกับสภาพรถที่เกิดความผิดพลาดในการทำงานของระบบลมเบรก ที่ใช้ทำงานกับรถประเภทนี้ จนไม่สามารถควบคุมรถได้ดังกล่าว

ภาพและข้อมูลจาก