รวบตัว เป๊ปซี่ หนุ่มลาว คาดเอี่ยวแก๊งโกตี๋ เจ้าตัวยันไม่รู้จักโดยตรง

       ตำรวจหนองคาย รวบตัว เป๊ปซี่ หนุ่มลาว รับจ้างส่งของไปฝั่งลาว คาดเอี่ยวเครือข่ายโกตี๋ เจ้าตัวยัน ไม่รู้จักกันโดยตรง มีคนติดต่อให้นำของไปส่ง

       จากกรณีเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ทำการจับกุมกลุ่มคนต่อต้านรัฐบาล คสช. และควบคุมผู้ต้องหา 8 คน พร้อมอาวุธหลายรายการ หนึ่งในนั้นคือ นายธีรชัย อุตรวิเชียร อายุ 54 ปี  โดยจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่านายธีรชัย และ โกตี๋ มีการติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ กับนายเป๊ปซี่ ชาวลาว ให้นำสิ่งของข้ามไปส่งให้กับเครือข่ายที่อยู่ใน สปป.ลาว นั้น
       เกี่ยวกับเรื่องนี้วันที่ 28 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.หนองคาย และนายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกันสอบสวนนายหัสดี ทิพะสอน หรือเป๊ปซี่ อายุ 34 ปี ชาวลาว ซึ่งทำงานรับจ้างอยู่ภายในโกดังสินค้าไม่มีชื่อ ในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย  หลังจากเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่านายเป๊ปซี่ ทำงานอยู่ที่โกดังสินค้าภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จึงเชิญตัวมาสอบสวน
 
       โดยนายเป๊ปซี่ ให้การว่า ตนเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ 10 ปี โดยทำงานรับจ้างกับบริษัทส่งของ รับส่งสินค้าจากไทยไปลาว โดยเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 มีชายชาวลาวชื่อว่าเหรียญทอง ทำงานอยู่สถานีโทรทัศน์ลาวสตาร์ ติดต่อมาหาตนทางไลน์ ระบุว่าจะมีคนเอาของมาฝากให้เอามาส่งที่ลาวสตาร์ในวันที่ 30 มกราคม 2560 ซึ่งจะมีผู้ชายโทร. ติดต่อตนเองและคนที่จะเอาของมาส่งจะเป็นคนขับรถเอาของมาส่งให้ที่โกดัง
 
       ต่อมาก็มีชายชื่อ ระพินทร์ โทร. มาบอกตนว่าจะเอาของมาฝาก ต่อมา นายระพินทร์ ก็ได้ขับรถเก๋งมา โดยมีผู้หญิงนั่งมาด้วย เดินทางมาที่โกดัง แล้วนำลังกระดาษ 7 ลัง แต่ละลังหนักประมาณ 20-30 กิโลกรัม ให้ตนรับและนำมาเก็บไว้ที่โกดัง วันต่อมาก็มีรถสิบล้อจากฝั่งลาวมารับลังกระดาษทั้งหมดไปโดยไม่ได้ไปส่งเอง

       หลังจากนั้นนายเหรียญทองได้ไลน์มาถามตนว่าของมาถึงหรือยัง ตนตอบไปว่าของส่งไปแล้ว หลังจากนั้นอีกหลายวันตนเห็นข่าวการจับกุมเครือข่ายโกตี๋ มีข้อมูลการสนทนากับนายระพินทร์ และโกตี๋ โดยมีชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของตนปรากฏอยู่ด้วย เมื่อเห็นแล้วก็ตกใจมาก เพราะตนไม่รู้จักทั้งนายระพินทร์และนายโกตี๋ แถมยังมีคนอ้างตัวว่าเป็นทหารชายแดนที่ภาคใต้โทร. มาหาตนหลายครั้ง ขอให้ตนพาข้ามไปลาวแล้วจะให้ค่าจ้าง แต่ตนกลัวจึงปฏิเสธไปและได้ยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์ไป ซึ่งยืนยันว่าตนไม่ได้รู้จักกับนายโกตี๋ แต่อย่างใด
 
       เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบทราบว่า ภายในลังกระดาษทั้ง 7 ลังนั้น เป็นอุปกรณ์เครื่องเสียง มูลค่า 40,350 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินการ และยังต้องตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอีกหลายส่วน

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก