เทเรซา เมย์ ลงนามรับรอง Brexit แล้ว นับถอยหลังออกจากอียูอย่างเป็นทางการ

          เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลงนามในหนังสือสำคัญ เพื่อเริ่มต้นเบร็กซิท (Brexit) อย่างเป็นทางการ คาดเจรจาทวิภาคีเริ่มต้นกลางเดือนพฤษภาคม 2560

          เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2560 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศอังกฤษ ได้ลงนามในสนธิสัญญาลิสบอน มาตรา 50 ว่าด้วยกระบวนการขอแยกตัวจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ หมายความว่านับจากนี้สหราชอาณาจักรจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปอีกต่อไปแล้ว ซึ่งเป็นไปตามสียงข้างมากของประชาชนในประชามติเบร็กซิท (Brexit)  ที่จัดทำขึ้นในเดือนมิถุนายน 2559
          การลงนามดังกล่าวมีขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม 2560 โดยนางเทเรซา เมย์ ได้ต่อโทรศัพท์สายตรงเพื่อเจรจาหารือเรื่องนี้กับตัวแทนสภาพยุโรป ซึ่งได้แก่ นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป, นายฌ็อง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนางแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้มาตรา 50 จะมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายลงนามรับรอง ภายหลังสิ้นสุดการเจรจา ซึ่งถ้าหากผลเป็นไปเช่นนั้น สหราชอาณาจักรก็จะออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มีนาคม 2562

          เซอร์ทิม บาร์โรว์ เอกอัครราชทูตอังกฤษ จะเป็นผู้ถือหนังสือสำคัญดังกล่าว เพื่อแจ้งความจำนงไปถึง นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรปในวันที่ 29 มีนาคม 2560 เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศอังกฤษ (จะตรงกับเวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งหลังจากนั้นนางเทเรซา เมย์ จะเข้าหารือกับคณะรัฐมนตรี เพื่อเริ่มต้นกระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปอย่างจริงจังต่อไป

          การหารือระหว่างสองภาคีภายหลังแยกตัว คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2560 หัวข้อสำคัญที่รัฐบาลอังกฤษคาดหวังว่าจะหยิบยกมาเจรจาก็คือ ความประสงค์ให้ประชากรของสหราชอาณาจักรสามารถอาศัยอยู่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้ โดยที่ประชากรจากประเทศเหล่านี้ก็สามารถอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรได้เช่นเดียวกัน


          นอกจากนี้หัวข้ออื่น ๆ ที่จะหารือก็มีตั้งแต่เรื่องการข้ามแดน การย้ายที่ตั้งขององค์กรต่าง ๆ ภายใต้สหภาพยุโรปออกไปจากสหราชอาณาจักร รวมไปถึงเรื่องการค้า แต่ทั้งนี้ประธานสหภาพยุโรปไม่เห็นด้วย และได้ระบุชัดเจนว่าการเจรจาสองหัวข้อนี้ต้องแยกออกจากกัน การค้าต้องแยกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

          นางเทเรซา เมย์ กล่าวว่า เวลานี้คือช่วงเวลาที่ทุกดินแดนในสหราชอาณาจักรจะร่วมมือร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มันคือโอกาสสำคัญที่ทุกประเทศจะเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ท้าทายร่วมกัน ทั้งนี้คาดว่ารัฐบาลอังกฤษจะเผยแพร่เอกสารว่าด้วยกฎหมายฉบับใหม่หลังจากนี้ โดยเอกสารดังกล่าวจะมีเนื้อหาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่จากเดิมใช้ร่วมกับสหภาพยุโรป ไปเป็นกฎหมายท้องถิ่นของแต่ละประเทศในสหราชอาณาจักร

ภาพจาก
CHRISTOPHER FURLONG / POOL / AFP