เผยสาเหตุทำไม ซินแสโชกุน เหลือเงินในบัญชีแค่ 3 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่หลอกคนได้นับพัน ได้เงินไปร่วม 50 ล้านบาท ด้าน ปปง. เร่งดำเนินการ
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2560 ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดฐานร่วมฉ้อโกงประชาชน และดำเนินการตรวจสอบการทำธุรกรรมกับธนาคารของ น.ส.พสิษฐ์ ทราบว่ามีเงินในบัญชี 3 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อทำการอายัดเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2560 ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดฐานร่วมฉ้อโกงประชาชน และดำเนินการตรวจสอบการทำธุรกรรมกับธนาคารของ น.ส.พสิษฐ์ ทราบว่ามีเงินในบัญชี 3 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อทำการอายัดเป็นที่เรียบร้อย
จากรายการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า น.ส.พสิษฐ์ ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเผยว่า มีการนำเงินกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ผู้เสียหายนำมาลงทุน ไปแปลงเป็นทรัพย์สินอื่น ๆ หลายรายการ อาทิ คอนโดมิเนียม มูลค่า 2 ล้านบาท รถเบนซ์ 2.8 ล้านบาท รถยนต์หรูหลายคัน รวมทั้งทองคำ นอกจากนี้ยังมีการนำเงิน 19 ล้านบาท ไปใช้จ่ายในการจัดทัวร์พาสมาชิกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงแรก รวมทั้งจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ สร้างความมั่นใจ ให้เกิดความน่าเชื่อถือ เป็นลักษณะการหมุนเงิน อย่างไรก็ดี น.ส.พสิษฐ์ ยอมรับว่า ไม่ได้มีการจองเครื่องบินและตั๋วโดยสารที่ใช้ในการเดินทางไปทริปญี่ปุ่นแต่อย่างใด
ขณะที่ทางเฟซบุ๊ก เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน ได้มีการวิเคราะห์ในประเด็นดังกล่าวนี้ไว้ว่า เฉพาะทริปแรกโอซาก้า ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 5 เมษายน 2560 ซึ่งเป็นทริปสร้างความเชื่อมั่น คาดว่าซินแสโชกุนใช้เงินไป 19 ล้านบาท เพื่อสมาชิก 200 คน จัดเป็นเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเดินทาง ค่ารถไฟชินคังเซ็น ค่าโรงแรมที่แพงมาก เนื่องจากจองกันในวันเดินทาง เฉลี่ยแล้วน่าจะตกคนละ 90,000 บาท
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ปปง. ได้เร่งดำเนินเรื่องการยึดทรัพย์แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดโยกย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินเพิ่มเติม ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ ที่นำเงินไปซื้อไว้ ไม่ว่าจะเป็นยานพาหนะ หรือที่พักอาศัย ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ ปปง. ตรวจพบจะทำการอายัดทันที หลังจากนั้นถ้าผู้ต้องหาชี้แจงที่มาที่ไปถึงทรัพย์สินไม่ได้ จะทำการยึดและนำไปขายทอดตลาดตามขั้นตอน เพื่อนำเงินไปเยียวยาผู้เสียหายทั้งหมด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้
รายละเอียดเพิ่มเติม