ชาวบ้านฮือฮาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เชื่อดื่มแล้วรักษาโรคได้ ด้านสาธารณสุขนราธิวาส ตรวจสอบพบเชื้อโรคเดียวกับอุจจาระ แต่ไม่ห้ามหากประชาชนมีความเชื่อ
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2560 เฟซบุ๊ก สมหมาย บุญเกลี้ยง ได้มีการโพสต์ข้อความว่า ประชาชนในพื้นที่ อ.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส พบตาน้ำที่ผุดน้ำตลอด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ สามารถรักษาโรคได้ น้ำในบ่อเป็นสีดำสนิท ไม่มีรสชาติ เมื่อทิ้งค้างคืนจะกลายเป็นสีขาวใส ต่อมาทางสาธารณสุข จ.นราธิวาส ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่า น้ำในบ่อเป็นสีดำเพราะตะกอนซากต่าง ๆ ส่วนเชื้อโรคที่พบนั้น เป็นเชื้อโรคประเภทเดียวกับที่ปะปนในอุจจาระ หากใครรับประทานอาจทำให้ท้องเสียได้
สำหรับข้อความทั้งหมด มีดังนี้
** สสจ.นราฯ สั่งเร่งตรวจสอบน้ำจากบ่อที่ชาวบ้านศรีสาครแห่ตักดื่มกิน หวั่นเกิดโรคได้ นราธิวาส-นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส สั่งเร่งตรวจสอบน้ำจากบ่อที่ชาวบ้านใน อ.ศรีสาคร แห่กันไปตักดื่มกินหลังเชื่อเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เตือนหวั่นเกิดโรคจากการกินน้ำที่ไม่สะอาด และไม่ถูกสุขลักษณะ
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร ที่บ้านไอกาแซ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวมีตาน้ำที่ผุดน้ำอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เกิดบ่อน้ำขึ้น และปัจจุบันมีชาวบ้านในพื้นที่ อ.ศรีสาคร เชื่อว่าบ่อน้ำดังกล่าวเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่เมื่อรับประทานแล้วสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ ทำให้มีประชาชนในพื้นที่ และต่างพื้นที่เดินทางมาตักน้ำในบ่อไปรับประทานกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน้ำในบ่อนี้มีสีดำสนิทแต่ไม่มีรสชาติ เมื่อทิ้งไว้ค้างคืนจะกลายเป็นน้ำสีขาวใส จึงทำให้หลายคนเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์
ล่าสุด นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งการให้ทีมสาธารณสุขอำเภอศรีสาคร และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสาคร ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพร้อมเก็บน้ำมาทำการตรวจสอบในขั้นต้น เพื่อตรวจสอบเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำที่มีสีดำ พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์การดื่มน้ำที่สะอาดให้ประชาชนได้รับทราบ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพน้ำเบื้องต้นพบว่า น้ำในบ่อที่เป็นสีดำ เกิดจากตะกอนซากต่าง ๆ ในพื้นที่โดยรอบ โดยบ่อดังกล่าวสอบถามแล้วเกิดขึ้นมานานกว่า 30 ปีมาแล้ว แต่ยังคงมีต่อน้ำผุดน้ำตลอดเวลา ทำให้น้ำในบ่อไม่แห้ง และเมื่อมีกระแสข่าวเกี่ยวกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้น จึงมีประชาชนมาตักน้ำเพื่อไปรับประทานจำนวนมาก ส่วนการตรวจสอบหาเชื้อโรคในน้ำพบเบื้องต้นมีเชื้อโรคที่มาจากอุจจาระปะปนอยู่ ซึ่งหากใครรับประทานไปอาจจะทำให้ท้องเสีย หรือท้องร่วงได้
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวอีกด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ตนเองและคณะเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบ พร้อมร่วมพูดคุยกับกลุ่มผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ห้ามหากประชาชนยังคงมีความเชื่อความศรัทธา แต่ขอแนะนำการดื่มน้ำที่ผ่านกรรมวิธีที่ถูกต้อง รวมถึงขอทำความสะอาดรอบ ๆ บ่อ โดยเฉพาะการตรวจแหล่งที่มาของเชื้ออุจจาระเพื่อป้องกันไม่ให้ไหลเข้ามาในบ่อน้ำดังกล่าว
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในการตรวจเบื้องต้นพบเพียงเชื้อโรคจากอุจจาระเพียงเท่านั้น หากสามารถทำความสะอาดโดยรอบ และไม่พบเชื้อโรคอื่น ๆ เพิ่มเติมแล้ว น้ำในบ่อก็จะสามารถรับประทานได้ แต่ก็อยากแนะนำให้รับประทานแบบถูกสุขลักษณะเพื่อสุขภาพของตนเอง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมหมาย บุญเกลี้ยง
