จตุพร-ณัฐวุฒิ ร้องขอความเป็นธรรม ยื่นสอบตำรวจ ออกหมายเรียกซ้ำซ้อน

          2 แกนนำ นปช. ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ขอให้ตรวจสอบการทำงานของตำรวจ สน.ดุสิต และ สภ.พัทยา ดำเนินการซ้ำซ้อนหรือไม่ หลังดำเนินคดีในข้อหาชุมนุมทางการเมืองปี 52

          วันที่ 4 พฤษภาคม 2560 นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ผ่านทาง พันตำรวจเอก ภมร รัตนสมัย ตำรวจเวรอำนวยการ เพื่อขอความเป็นธรรม โดยให้ ผบ.ตร. ตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยขอบเขตอำนาจของพนักงานสอบสวน รวมทั้งเป็นการใช้สิทธิที่อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบกระบวนการออกหมายจับ ฐานมีส่วนร่วมกับการชุมนุมทางการเมือง ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา เมื่อปี 2552
          โดยนายจตุพร ระบุว่า กรณีที่ตำรวจพัทยามีการออกหมายเรียกตนเองพร้อมพวกรวม 6 คน เพื่อให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ฐานก่อเหตุความวุ่นวายทางการเมืองเมื่อปี 2552 ยืนยันว่าตนและพวกไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการเมืองที่พัทยา แต่ยอมรับว่าได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ในห้วงเวลาดังกล่าวแล้ว ฐานชุมนุมรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล แต่หากจะมีการออกหมายเรียกในวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 ที่ สภ.พัทยา ให้ไปพบนั้น มองว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่มิชอบหรือไม่ หรือเป็นการทำงานซ้ำซ้อนหรือไม่ จึงอยากให้ ผบ.ตร. ตรวจสอบกระบวนการทำงานดังกล่าวให้เกิดความชัดเจน ฉะนั้นจึงอยากให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลของบุคคลที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษว่ากลุ่มตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นด้วย


          ในขณะเดียวกันหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

          ด้านนายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า ตัวเองไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี และหลีกเลี่ยงกระบวนการยุติธรรม สู้คดีมาโดยตลอด และเมื่อปี 2552 ตนเองก็ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ดุสิต ฐานชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาล ซึ่งในขณะนั้น คณะกรรมการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีมติดำเนินการกับกลุ่มของตนแต่อย่างใด ซึ่งเวลาผ่านมาแล้วกว่า 8 ปี แต่ สภ.พัทยา กลับมีการขอศาลออกหมายจับถึง 2 ครั้ง แต่ศาลไม่อนุมัติ ตนเองจึงมองว่าเจ้าหน้าที่ข้ามขั้นตอนในการปฏิบัติ จึงเชื่อว่าอาจมีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งในวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 จะมีการไปพบพนักงานสอบสวน สภ.พัทยา จะทำให้ถูกดำเนินการจับกุมฐานผิดคำสั่งหมายเรียก 2 ครั้ง  จึงขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชัดเจนในการตรวจสอบ และตั้งคำถามการทำงานของ สภ.พัทยา และ สน.ดุสิต ว่าซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบการทำหน้าที่ของตำรวจ ก่อนดำเนินการตามสิทธิของตัวเอง แต่หากจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตนเองก็พร้อมและจะไม่หลบหนี

          ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้ก่อนส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาในรายละเอียดต่อไป