ผลการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง สหราชอาณาจักร 2017 ตอนนี้พรรคอนุรักษนิยม ของเทเรซา เมย์ ยังมีคะแนนนำ แต่เสี่ยงเสียเก้าอี้ในสภา และอาจก่อให้เกิดภาวะที่พรรคการเมือง ได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ แต่ไม่มากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ จากการที่รัฐบาลอังกฤษ ได้ยุบสภาผู้แทนราษฎร และจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 มิถุนายน 2560 ก่อนกำหนดเดิมเกือบ 3 ปี (กำหนดเดิมคือปี 2562) เพื่อขอหยั่งเสียงประชาชนเกี่ยวกับเงื่อนไขการถอนตัวจากสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ Brexit อันเนื่องมาจากความขัดแย้งต่าง ๆ ภายในประเทศ ว่าหากสหราชอาณาจักร ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแล้ว จะส่งผลต่อเศรษฐกิจมหาศาล ดังนั้น นางเทเรซา เมย์ จึงต้องการเสียงเบ็ดเสร็จในสภา เพื่อผลักดันการออกจากสมาชิกสหภาพยุโรปต่อไป
การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการแข่งขันระหว่าง 2 พรรคใหญ่อย่าง พรรคอนุรักษนิยมของนางเทเรซา เมย์ และพรรคแรงงานที่มีนายเจเรมี คอร์บิน เป็นหัวหน้า ซึ่งมันเป็นเดิมพันที่สูงสำหรับนางเทเรซา เมย์ เนื่องจากพรรคอนุรักษนิยมของเธอต้องการครองเสียงข้างมากในสภา เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดความวุ่นวายทางการเมือง และเพื่อให้การเจรจากับสหภาพยุโรปเป็นไปอย่างราบรื่น และสำหรับการเลือกตั้งครั้งสำคัญนี้มีการจัดคูหาทั่วประเทศกว่า 40,000 จุด โดยตั้งแต่เวลาเปิดคูหาเมื่อ 07.00 น. จนถึงเวลาปิดหีบ ในเวลา 22.00 น. นั้น พบว่ามีประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกว่า 46.9 ล้านคน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2560 สำนักข่าวบีบีซี ได้รายงานผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ และปรากฏว่า ผลการเลือกตั้ง ณ เวลา 11.50 น. ของประเทศไทย พรรคอนุรักษนิยมของนางเทเรซา เมย์ ได้ที่นั่งในสภาทั้งหมด 303 ที่นั่ง ลดลงจากเดิม 11 ที่นั่ง กว่า 13,141,741 คะแนนเสียง และพรรคแรงงานของนายเจเรมี คอร์บิน ได้ที่นั่งในสภาทั้งหมด 257 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากเดิม 28 ที่นั่ง กว่า 12,522,211 คะแนนเสียง
ทั้งนี้ พรรคที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จะต้องมี ส.ส. ในสภาทั้งหมด 326 ตำแหน่ง แต่มีความเป็นไปได้ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคอนุรักษนิยมของนางเทเรซา เมย์ จะครองเสียงส่วนใหญ่ในสภา แต่จำนวน ส.ส. ที่ได้อาจจะไม่ถึง 326 ตำแหน่ง จึงจะก่อให้เกิดสภาวะ Hung Parliament คือการที่พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงสูงสุด แต่คะแนนเสียงนั้นไม่ถึงเกณฑ์ 326 เสียง ไม่มากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งหากเกิดกรณีนี้จริงอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ นางเทเรซา เมย์ และคณะรัฐบาล จะรักษาการบริหารประเทศไปก่อน จนกว่าจะมีการประชุมรัฐสภาในวันที่ 13 มิถุนายน ซึ่งถ้าหากเสียง ส.ส. ส่วนใหญ่ในสภา รวมถึงพรรคเล็ก สนับสนุนนายคอร์บินให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นางเทเรซา เมย์ ก็อาจจะหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เป็นได้ และหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็จะส่งผลกระทบให้การเจรจาออกจากสหภาพยุโรปล่าช้าลงไปอีก
หัวใจสำคัญในการเลือกตั้งครังนี้คือกลุ่มประชาชนวัยหนุ่มสาว และกลุ่มนี้มีแนวโน้มนิยมชมชอบนโยบายของพรรคแรงงานของนายคอร์บินมากกว่าพรรคอนุรักษนิยมของนางเมย์ เนื่องจากพรรคแรงงานมีนโยบายที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ แตกต่างไปจากพรรคอนุรักษนิยมที่มีจัดการเลือกตั้งโดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มอำนาจให้กับนายกรัฐมนตรีอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้ ได้มีผลเอ็กซิทโพลออกมา และคาดว่าพรรคอนุรักษนิยมของนางเมย์ จะได้ที่นั่งในสภาทั้งสิ้น 314 ที่นั่ง ส่วนพรรคแรงงานจะได้ทั้งหมด 266 ที่นั่ง ซึ่งล่าสุด นายคอร์บิน ได้เรียกร้องให้นางเทเรซา เมย์ ลาออกจากตำแหน่ง และบอกว่า นางเทเรซา เมย์ ได้สูญเสียคะแนนเสียงไปแล้ว
ภาพจาก Frederic Legrand - COMEO / Shutterstock.com
ข้อมูลจาก
bbc.com,
bbc.com,
euronews.com