ข่าว 5 ศพตกบ่อบำบัด ล่าสุด พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ลงพื้นที่ตรวจสอบ ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุ ด้านซีพีเอฟแจ้งยกเลิกแถลงข่าววันนี้ (26 มิ.ย.)
วันที่ 26 มิถุนายน 2560 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ นางสาวปัณฐิกา ตาสุวรรณ หรือ น้องหวาย นิสิตชั้นปีที่ 5 คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคนงานโรงงานบริษัท ซีพีเอฟ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ตกบ่อบำบัดน้ำเสีย เสียชีวิตรวม 5 ราย โดย พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยขณะลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ว่า แม้บริษัท ซีพีเอฟ จะเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยยึดตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน
โดย พล.ต.ท. ศานิตย์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมและตรวจสอบก่อนดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ใน 3 ประเด็น คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ มีคนจงใจทำให้เกิดเหตุ หรือเป็นความประมาทของผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งเบื้องต้นได้มีการสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วรวม 8 ปาก และวานนี้ (25 มิถุนายน) เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนักศึกษาอีก 1 ราย ที่อยู่ในเหตุการณ์ พยานปากสำคัญไปชี้จุดเกิดเหตุแล้ว และการดำเนินคดีจะต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ และจากข้อมูลหลักฐานที่รวบรวมได้ในขณะนี้อาจพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในจุดเกิดเหตุ ในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
ด้าน บริษัท ซีพีเอฟ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการแจ้งยกเลิกการแถลงข่าวในวันนี้ (26 มิถุนายน)
ขณะที่ วัดเมืองกาย เชียงใหม่ สถานที่จัดพิธีงานศพน้องหวาย นิสิตชั้นปีที่ 5 คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีครอบครัวและญาติ ๆ รวมถึงตัวแทนจากบริษัท ซีพีเอฟ เข้าร่วมงาน โดยพ่อน้องหวาย กล่าวว่า ตนเองต้องการจัดงานศพลูกสาวให้ดีที่สุด ส่วนในเรื่องของคดีความคงต้องรอให้จบเรื่องงานพิธีไปแล้ว ซึ่งหลังทางผู้บริหารซีพีเอฟออกมาพูดในเรื่องของการรับผิดชอบ ตนเองก็เชื่อว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ด้าน จ.สกลนคร บ้านเกิดของนายชาตรี พนักงานฝ่ายคลังสินค้าผู้เสียชีวิต ครอบครัวก็โศกเศร้าเช่นกัน โดยนายทวี น้องชาย เผยว่า พี่ชายเป็นคนที่มีเมตตา โอบอ้อมอารี เพิ่งส่งเสียลูกจนเรียนจบปริญญาตรี เคยพูดว่าขอทำงานอีกแค่ 2 ปี จะออกมาทำงานเกษตรที่บ้าน แต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน
ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ สถานที่จัดงานศพนายพรศักดิ์ บุญบาล อีกหนึ่งผู้เสียชีวิต พ่อและแม่ที่แก่ชรา เผยว่า เมื่อทราบข่าวก็ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะครอบครัวมีลูกชายเพียงคนเดียว ลูกชายจะเป็นคนทำงานและส่งเงินมาให้ทุกเดือน เดือนละ 4,000-5,000 บาท รวมกับเบี้ยยังชีพเดือนละ 800 บาท แต่เมื่อลูกชายมาเสียชีวิตก็ไม่รู้ว่าต่อไปข้างหน้าจะอยู่กันอย่างไร
และที่ จ.ตราด สถานที่จัดพิธีศพนายชาญชัย เจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตอีก 1 ราย ภรรยา เผยว่า สามีตนเป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งหลังจากนี้ตนเองก็ต้องเข้มแข็ง ใช้ชีวิตต่อไปเพื่อลูก
ภาพและข้อมูลจาก
