สื่อนอกแฉสาวเบลเยียมผูกคอดับปริศนาที่เกาะเต่า แม่ผู้ตายไม่เชื่อคำ ตร.ไทย

           สื่อนอกแฉเกาะเต่า มีนักท่องเที่ยวดับรายที่ 7 เป็นสาวเบลเยียมวัย 30 ศพผูกคอตายปริศนา ตำรวจไทยแจงผลตรวจขาดอากาศดับ ด้านแม่ผู้ตายไม่ปักใจเชื่อ

          จากกรณีที่เว็บไซต์มิเรอร์ สื่อต่างประเทศ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 ถึงเหตุการณ์ที่ น.ส.เอลิส ดัลเลอมาเน อายุ 30 ปี นักท่องเที่ยวชาวเบลเยียม เสียชีวิตด้วยการผูกคอตายที่เกาะเต่า ซึ่งกว่าจะพบศพปรากฏว่ามีตัวเงินตัวทองกินไปแล้วเกือบครึ่งร่าง ขณะที่ทางแม่ผู้ตายยังติดใจกับสาเหตุที่ลูกสาวจบชีวิตในครั้งนี้ โดยสื่อดังกล่าวระบุว่า เกาะเต่า คือ "เกาะแห่งการฆาตกรรม" เพราะนี่คือนักท่องเที่ยวรายที่ 7 ซึ่งเสียชีวิตที่นี่นั้น
          ความคืบหน้าเรื่องนี้ พ.ต.ท. โชคชัย สุทธิเมฆ สวญ. สภ.เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า คดีนี้มีการพบศพเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560 โดยพบร่างผู้ตายผูกคอตัวเองด้วยเชือกติดกับต้นไม้ คาดว่าเสียชีวิตระหว่างวันที่ 23-24 เมษายน โดยก่อนวันพบศพ ตำรวจรับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บังกะโลที่ น.ส.เอลิส เช่าพักอยู่บริเวณอ่าวแม่หาด ซึ่งช่วงเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงต่างวิ่งหนีกันออกมา โดยมีผู้พบเห็น น.ส.เอลิส วิ่งหนีออกมาด้วย หลังจากนั้นก็หายตัวไป กระทั่งมาพบเป็นศพบริเวณอ่าวโตนดซึ่งอยู่อีกฝั่งของเกาะ


          พ.ต.ท. โชคชัย เผยว่า หลังส่งศพไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ได้รับการยืนยันว่า เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจด้วยการผูกคอตาย จากนั้นทางตำรวจได้ประสานไปที่สถานทูตเบลเยียมและมารดาของผู้ตาย ก่อนจะทำพิธีฌาปนกิจที่กรุงเทพฯ ซึ่งมารดาของผู้ตายก็รับทราบ และเดินทางมารับข้าวของเครื่องใช้ที่เหลืออยู่ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม จะเชิญพนักงานของบังกะโลมาให้ปากคำอีกครั้ง เพื่อคลี่คลายประเด็นที่หลายคนยังสงสัย


          ทั้งนี้ มิเชล ฟาน เอกเทน แม่ของเอลิส เผยว่า เธอไม่สามารถยอมรับได้ถึงสาเหตุการเสียชีวิตตามที่ตำรวจบอก เนื่องจากน้ำเสียงของลูกสาวในวันที่คุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ยังดูเป็นปกติ และไม่เข้าใจว่าลูกสาวจะจองตั๋วกลับกรุงเทพฯ ทำไม หากตั้งใจเข้าป่าและฆ่าตัวตาย พร้อมระบุว่าเวลานี้เธออยู่ระหว่างการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สืบสวนเยอรมนี เพื่อตามหาตัวคนพบศพลูกสาว รวมถึงพยานที่เคยพบเอลิสก่อนหน้าที่เธอจะเสียชีวิต โดยเชื่อว่าน่าจะมีผู้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของลูกสาว

           ขณะที่สื่ออย่างมิเรอร์ อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับคดีนี้ว่า ช่วงที่ผ่านมาสื่อท้องถิ่นถูกกดดันไม่ให้ตีแผ่คดีดังกล่าวออกสู่สาธารณะอีกด้วย

ภาพและข้อมูลจาก
, เฟซบุ๊ก Michele van Egten, Agama Community Phangan, Auke Boon