โฆษก ทส. ชี้แจง "ผู้ยากไร้จะไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า เนื่องจากเป็นมาตรการของรัฐต่อนายทุนและผู้มีอิทธิพลเท่านั้น" ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อหนังสือพิมพ์ วันที่ 21 ก.ค. 2560 กรณีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐฯ
ล่าสุด วันที่ 22 ก.ค. 2560
นายประลอง ดำรงค์ไทย โฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เรียนชี้แจงว่า
นโยบายของรัฐบาลโดยการนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ในมาตรการทวงคืนผืนป่านั้น
รัฐบาลจะดำเนินการเฉพาะกลุ่มของนายทุนและผู้มีอิทธิพลที่บุกรุกพื้นที่ป่า
แต่สำหรับประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน
ซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมนั้นก่อนคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้
รัฐบาลได้มีมาตรการให้ได้รับการผ่อนผัน ไม่มีการจับกุม ตามคำสั่ง คสช. ที่
64/2557 และ ที่ 66/2557 และในขณะเดียวกัน
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการนำของ รมว.ทส.(พลเอก
สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์) ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า
(ศปก.พป.) ทั้งป่าบก ป่าชายเลน และทางทะเล มีหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ จับกุม
การบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินป่าไม้ที่ผิดกฎหมาย เพื่อนำที่ดินดังกล่าว
จากกลุ่มนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลที่บุกรุก
ให้กลับคืนสู่พี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ต่อไป
ดังนั้น
เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
และเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าตามที่มีการร้องเรียนให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว
รมว.ทส. จึงได้สั่งการให้อธิบดีกรมป่าไม้ และ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินทางไปพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
เพื่อรับฟังความเดือดร้อน และแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้
หากประชาชนมีข้อสงสัยขอให้สอบถามหรือประสานได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า
(ศปก.พป.), ศูนย์บริการร่วม ทส. โทร. 1310
หรือที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดทุกจังหวัด ต่อไป