เกิดเหตุโจรใต้ ลอบวางระเบิดทหารพราน ขณะลาดตระเวน ที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เสียชีวิต 4 นาย บาดอีกเจ็บอีก 6 ราย
วันที่ 22 กันยายน 2560 เกิดเหตุระเบิดมีผู้เสียชีวิตหลายราย บนถนนสายเจาะกือแย-สายบุรี ม.1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่เกิดเหตุพบซากรถกระบะขาดสองท่อน และมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนอนกระจัดกระจายบริเวณที่เกิดเหตุ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าไปเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัย ก่อนจะมีการเข้าไปตรวจสอบและนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี เป็นเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตทันที 4 นาย และบาดเจ็บอีก 6 ราย
1. อาสาสมัครทหารพราน สุวิทย์ บุญชู
2. อาสาสมัครทหารพราน ณัฐพล รังสิมันตุชาติ
3. อาสาสมัครทหารพราน ปฐมพร คงสัย
4. อาสาสมัครทหารพราน พิทักษ์คมสิทธิ์ ศักดิ์วิเศษสม
ผู้ที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ ประกอบด้วย
1. สิบเอก ธีรวุฒิ ปานแก้ว
2. อาสาสมัครทหารพราน จักกฤษ จี่เอ้ย
3. อาสาสมัครทหารพราน ธันยา เอื้องฟ้าไพรวัลย์
4. อาสาสมัครทหารพราน ประหยัด อินทร์แก้ว
5. อาสาสมัครทหารพราน เอกชัย คำแคว่น
ราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บ
นางสาวรอมือเลาะ สือรี
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะแบบหุ้มเกราะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สี่ประตู สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพขาดสองท่อน ห่างกันประมาณ 3 เมตร พบหลุมระเบิดกว้าง 3 เมตร ลึก 2 เมตร มีชิ้นส่วนถังแก๊ส ขนาด 15 กก. ชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิด และชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ขณะที่ สิบเอก ธีรวุฒิ ปานแก้ว หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ร้อย.ทพ.4412 นำกำลัง จำนวน 8 นาย ออกจากฐานเพื่อไปดูแลความปลอดภัยโรงเรียนบ้านตะบิ้ง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้จอดให้และส่งคนลงไปดูความเรียบร้อยริมถนนว่ามีวัตถุต้องสงสัยหรือไม่ แต่พลขับได้ขับออกไปก่อนที่จะได้รับสัญญาณว่าปลอดภัย คนร้ายจึงกดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 80-100 กก. ที่ซุกไว้ใต้ท่อระบายน้ำ จนทำให้รถกระบะขาดสองท่อน ร่างของทหารทั้ง 4 นาย ที่นั่งท้ายกระบะกระเด็นไปคนละทิศละทางเสียชีวิตทันที ส่วนที่เหลือขณะกำลังหนีออกจากรถก็ถูกคนร้ายซุ่มยิง จนเกิดการยิงตอบโต้กันขึ้นก่อนที่คนร้ายจะล่าถอยหนีเข้าไปในป่า
หลังเกิดเหตุ พ.อ. ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผบ.ทพ.44 ได้นำกำลังร่วมกระจายกำลังปิดล้อมเพื่อไล่ล่ากลุ่มคนร้าย ในรัศมี 500 เมตร และเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นชุดเดิมที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการแจ้งเตือนว่าคนร้ายมีแผนเตรียมก่อเหตุด้วยการลอบวางระเบิด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดล่อแหลม โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ระวังป้องกันอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุและกระทบกับประชาชน ซึ่งคนร้ายพยายามหาช่องโหว่ในการก่อเหตุก่อนจะเกิดเหตุขึ้นดังกล่าว
ข้อมูลจาก
