พบกับคู่รักนักเปลือย สบาย ๆ ไปที่ไหนก็เปลือยเปล่า เพราะพวกเรารักธรรมชาติ

          เปิดเรื่องราวของคู่รักผู้นิยมนู้ดดิซึม (Nudism) เปลือยกายทุกที่ที่ทำได้ ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือไปเที่ยว เพราะการเปลือยกายเป็นเรื่องธรรมชาติ และร่างกายมนุษย์ไม่ใช่สิ่งน่าอาย

          เคยใช่ไหม จะไปเที่ยวแต่ละครั้งต้องมานั่งคิดแล้วคิดอีก จะใส่ชุดอะไรดีนะ จะใส่รองเท้าคู่ไหนไปดี กางเกงตัวนี้โอเคไหม เสื้อตัวโน้นเข้ากันไหม ฯลฯ มันเป็นปัญหาโลกแตกชวนปวดหัวที่ทุกคนล้วนเคยพบเจอ คู่รักชาวเบลเยียมคู่นี้ก็น่าจะเคยเจอปัญหาแบบนี้เช่นกัน แต่พวกเขามีวิธีแก้ไขที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ในเมื่อการใส่เสื้อมันยุ่งยาก ก็ไม่ใส่มันซะเลย !
          โดยจากการรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560 ระบุว่า นิค และ ลินส์ คือคู่รักชาวเบลเยียมที่เดินทางไปท่องเที่ยวมาแล้วหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโครเอเชีย มอลตา กรีซ จนถึงแอลเบเนีย พวกเขาชื่นชอบการเดินเล่นรับลม นอนอาบแดดริมหาด เล่นน้ำในทะเล และสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ไม่มีเสื้อผ้ามาเกี่ยวข้องเลยสักชิ้น พวกเขาไปกันไปแบบชิล ๆ แบบเปลือยเปล่า


          นิคและลินส์เป็นหนึ่งในผู้คนมากมายที่สนับสนุนนู้ดดิซึม (Nudism) โดยพวกเขาเหล่านี้มีความไอเดียว่า การเปลือยเปล่าถือเป็นเรื่องธรรมชาติ มันไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจหรือน่าอับอายแต่อย่างใด นิคและลินส์สัมผัสประสบการณ์นู้ดดิซึมเป็นครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน หลังจากที่พวกเขาจองซาวน่าแบบเปลือยเปล่าโดยบังเอิญ และตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็สนับสนุนความเปลือยมาโดยตลอด

          มีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะที่นิคและลินส์ไปท่องเที่ยวพักผ่อนกันที่มอนเตเนโกร พวกเขาใช้เวลา 2 สัปดาห์เต็ม ๆ ในการช่วยงานที่อีโค่แคมป์แห่งหนึ่ง และ ณ ที่แห่งนั้น ทั้งคู่ได้พบเห็นผู้คนมากมาย ที่ชื่นชอบความเปลือยเปล่าในรูปแบบที่แตกต่างหลากหลายกันออกไป หนึ่งในนั้นคือผู้ก่อตั้งแคมป์แห่งนี้ เขามีฉายาว่า เปลือยหมดจด 24 ชั่วโมง (24/7 Nudist)

          "ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน เขาจะเปลือยเปล่าตลอดเวลา ถ้าหากมีเรื่องให้จำเป็นต้องออกไปข้างนอก เขาจะสวมแค่กางเกงตัวเดียวเท่านั้น และเมื่อเขากลับมาถึงแคมป์ เขาก็จะถอดมันออกทันที ราวกับว่าเขาเป็นภูมิแพ้เสื้อผ้ายังไงยังงั้น" นิคและลินส์ เล่าถึงประสบการณ์เข้าอีโค่แคมป์ที่มอนเตาเนโกร ไว้บนเว็บไซต์ของพวกเขา


          หลังจากวันนั้น เมื่อนิคและลินส์กลับไปเบลเยียม พวกเขาก็จะละทิ้งเสื้อผ้า และเปลือยเปล่าทุกครั้งที่สะดวกหรือมีโอกาส ส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่พวกเขาอยู่บ้าน และมั่นใจว่าจะไม่มีแจกที่ไหนโผล่มาเยี่ยม พวกเขากล่าวว่ามันเป็นความอิสระ และทำให้บรรยากาศรอบตัวดูสบาย ๆ ไม่เครียด

          "มันทำให้คุณเรียนรู้ถึงสัมผัสของธรรมชาติ อย่างที่คุณไม่เคยพบเจอมันก่อน และมันรู้สึกดีมาก โดยเฉพาะความรู้สึกขณะที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนผืนหญ้า ความรู้สึกตอนที่สายลมพัดผ่านร่างกาย และความรู้สึกตอนแสงแดดสาดส่องไปทั่วร่าง" คู่รักผู้ชื่นชอบความเปลือยเปล่า กล่าว


          นอกจากนี้แล้ว นิคและลินส์ยังร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนฝูงคนอื่น ๆ ที่ชื่นชอบการเปลือยเปล่าเหมือนกัน และได้ก่อตั้งเว็บไซต์ขึ้น เพื่อให้เหล่าผู้คนจากทั่วโลกสามารถมาแชร์ประสบการณ์เปลือย ๆ ของตัวเอง และสามารถนัดหมายพบปะกันได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ทุกที่ในโลกที่ยอมรับเรื่องนี้ โดยในศรีลังกา การแก้ผ้าเปลือยเปล่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

          "ที่นี่ (ศรีลังกา) กิจกรรมที่เกี่ยวกับความเปลือยเปล่าในที่สาธารณะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย พวกเขามองว่าการเปลือยกายถือนั้นเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศ และพวกเขาไม่ต้องการเห็นมัน ซึ่งมันค่อนข้างน่าละอาย เพราะความเปลือยเปล่ามีมาตลอด อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ของมนุษย์"

          "เป้าหมายที่สำคัญของพวกเราก็คือ การเปลี่ยนวิถีธรรมชาตินิยมให้กลายเป็นที่คุ้นเคย ทำให้การเปลือยเปล่า (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ) ให้กลายเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น และแสดงให้ผู้คนรับรู้ว่า การเปลือยเปล่าเป็นสิ่งที่สนุก และร่างกายมนุษย์ของเรานั้น ไม่มีอะไรน่าอายเลย" นิคและลินส์ กล่าว


ภาพจาก Instagram nakedwanderings