ปิดคดีอุ้มฆ่า เอกยุทธ อัญชันบุตร ศาลจำคุกพ่อบอล สันติภาพ ฐานรับของโจร

         ปิดคดีอุ้มฆ่า เอกยุทธ อัญชันบุตร ศาลฎีกายืนจำคุก 1 ปี 4 เดือน พ่อบอล สันติภาพ ฐานรับของโจร ส่วนจำเลยอื่นยืนโทษตามศาลอุทธรณ์

           วันที่ 18 ตุลาคม 2560 ศาลอาญา รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องนายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง อายุ 27 ปี, นายสุทธิพงศ์ หรือ เบิ้ม พิมพิสาร อายุ 32 ปี, นายชวลิต หรือเชาว์ วุ่นชุม อายุ 27 ปี, นายทิวากร หรือทิว เกื้อทอง อายุ 22 ปี, จ.ส.อ. อิทธิพล เพ็งด้วง อายุ 55 ปี และนางจิตอำไพ เพ็งด้วง อายุ 52 ปี ในความผิดรวม 8 ข้อหา
     
          คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อเดือนมิถุนายน 2556 นายสันติภาพ อดีตคนขับรถของนายเอกยุทธ ได้ร่วมกับ นายสุทธิพงศ์ ใช้ปืนและมีด ปล้นเอาทรัพย์ไปกว่า 6.6 ล้านบาท ก่อนจะใช้เชือกรัดคอจนนายเอกยุทธ ถึงแก่ความตาย และนำศพไปฝังไว้ในไร่นาสวนผสมทิ้งร้างที่จังหวัดพัทลุง โดยมีนายชวลิต และนายทิวากร ช่วยขุดหลุมฝังศพ ส่วน จ.ส.อ. อิทธิพล นางจิตอำไพ ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของ นายสันติภาพ เป็นผู้รับฝากเงินสดของนายเอกยุทธ ที่นายสันติภาพ นำมาฝากไว้กว่า 4 ล้านบาท 

           ทั้งนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ประหารชีวิต นายสันติภาพและนายสุทธิพงศ์ ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่จากคำให้การถือเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต และให้ร่วมกันชดใช้เงิน จำนวน 1.9 ล้านบาท ให้กับทายาทของผู้เสียชีวิต ส่วนนายชวลิต มีความผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพฯ ให้จำคุก 19 เดือน ขณะที่นายทิวากร ให้จำคุก 8 เดือน ฐานร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพฯ

          
          ขณะที่ จ.ส.อ. อิทธิพล และ นางจิตอำไพ ให้ลงโทษฐานรับของโจร แต่จำเลยรับสารภาพ และช่วยติดตามนำเงินของกลางมาคืนจำนวน 4.4 ล้านบาท จึงพิพากษาให้จำคุก 1 ปี 4 เดือน ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น หลังจากนั้น จ.ส.อ. อิทธิพล ยื่นฎีกาเพียงคนเดียวขอให้ศาลรอการลงโทษในวันนี้

          ล่าสุด ศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามที่ศาลอุทธรณ์ให้จำคุก จ.ส.อ. อิทธิพล บิดาของบอล สันติภาพ เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัว จ.ส.อ. อิทธิพล ไปคุมขังยังเรือนจำเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาต่อไป ส่วนจำเลยอื่นซึ่งไม่ยื่นฎีกาถือว่าคดีเป็นที่สิ้นสุด ให้บังคับโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Somsri Chantorn