ใกล้เข้ามาทุกขณะ สำหรับวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ซึ่งพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนั้นนับเป็นงานพระราชพิธีใหญ่ ที่มีธรรมเนียมปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่โบราณ แต่ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามยุคสมัยเช่นกัน
โดยล่าสุด (21 ตุลาคม 2560) เพจ "คลังประวัติศาสตร์ไทย" ก็ได้นำเสนอข้อมูลรูปแบบและธรรมเนียม ในการถวายพระเพลิงพระบรมศพจริง ซึ่งจะนำมาใช้ในการถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พบว่าจะใช้วิธีการสุมเพลิงพระบรมศพในเตาไฟฟ้า โดยมีการติดตั้งเตากึ่งไฟฟ้าที่มีการระบายควัน อยู่บนจิตกาธาน (เชิงตะกอนหรือฐานที่ทำขึ้นสำหรับเผาศพ) จุดที่มีการถวายดอกไม้จันทน์ โดยด้านบนของจิตกาธานนั้นก็จะอัญเชิญพระบรมโกศมาตั้งประกอบเป็นเกียรติยศ เมื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพจริง เตาสุมเพลิงทำงาน เจ้าพนักงานจะเปิดฝาพระโกศออก ปิดพระฉากบังเพลิง ให้เหมือนโบราณราชประเพณี
สำหรับรูปแบบการถวายพระเพลิงพระบรมศพทั้งหมดนั้น ปัจจุบันในราชสำนัก มีอยู่ 4 รูปแบบ ดังนี้
1. การสุมเพลิงพระบรมศพบนพระจิตกาธาน (กรณีที่พระบรมศพอยู่ในพระบรมโกศ)
การสุมเพลิงรูปแบบนี้เป็นแบบโบราณราชประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งกรุงเก่า แต่ในปัจจุบันนี้ไม่พบว่ามีการถวายพระเพลิงพระบรมศพบนพระจิตกาธานอีกแล้ว เนื่องจากควบคุมเพลิงได้ยาก เจ้าพนักงานจะต้องคอยฉีดน้ำและควบคุมทิศทางลมอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับปัจจุบันมีการนำเตาเผาสมัยใหม่เข้ามาใช้ทดแทน โดยจากภาพคืองานถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เมื่อ พ.ศ. 2528
2. การสุมเพลิงพระบรมศพบนพระจิตกาธาน (กรณีพระบรมศพอยู่ในหีบ)
รูปแบบนี้เป็นราชประเพณีที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2539 ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า โดยทางสำนักพระราชวังได้ทำการตั้งหีบพระบรมศพบนพระจิตกาธาน แล้วนำพระบรมโกศ (โกศเปล่า) วางบนหีบพระบรมศพอีกชั้นหนึ่ง
3. การสุมเพลิงพระบรมศพในเตาไฟฟ้า (กรณีพระศพอยู่ในหีบ)
4. การสุมเพลิงพระศพในเตาไฟฟ้า (กรณีพระศพอยู่ในพระโกศ)
เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2555 ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งพระศพของพระองค์ประดิษฐานอยู่ในพระโกศตามโบราณราชประเพณี แต่เมื่อถึงเวลาพระราชทานเพลิงพระศพจริงนั้น เจ้าพนักงานได้อัญเชิญพระโกศลงจากพระจิตกาธานเพื่อไปพระราชทานเพลิงยังเตาไฟฟ้าที่อยู่ทางทิศตะวันตกแทน โดยเตาไฟฟ้าจะมีขนาดใหญ่และสูงกว่าปกติ เพื่อที่สามารถอัญเชิญพระโกศเข้าไปภายในเตาไฟฟ้าได้
ภาพและข้อมูลจาก คลังประวัติศาสตร์ไทย