สื่อสิงคโปร์ตีข่าวแคมเปญ ก้าวคนละก้าว การวิ่งที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของ ตูน บอดี้สแลม พร้อมตั้งคำถามที่หลายคนสงสัย ทำไมถึงไม่จัดคอนเสิร์ต และสุดท้ายแล้ว เป้าหมายของเขาคืออะไร
ภารกิจวิ่งมาราธอน "ก้าวคนละก้าว" ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อระดมทุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลรัฐ 11 แห่งทั่วประเทศไทย ได้ดำเนินมาถึงวันที่ 14 แล้ว โดย อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม นักร้องชื่อดังขวัญใจชาวไทย เริ่มต้นออกวิ่งจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา จนถึงตอนนี้เขาวิ่งไปมากกว่า 500 กิโลเมตรแล้ว แต่เขาจะยังไม่หยุดลงแต่เพียงเท่านี้ จนกว่าจะถึงวันสุดท้ายที่ปลายทาง ณ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
เรื่องราวเปี่ยมแรงบันดาลใจของ ตูน บอดี้สแลม ได้ถูกหยิบยกไปเปิดเผยโดยเว็บไซต์แชนแนลนิวส์เอเชีย เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ระบุว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ตูน บอดี้สแลม วิ่งมาราธอนการกุศลเพื่อหาเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล โดยก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม 2559 เขาออกวิ่งเป็นระยะทาง 400 กิโลเมตร และได้เงินไปกว่า 63 ล้านบาท แต่ในครั้งนี้เขามีจุดมุ่งหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น โดยเขาจะออกวิ่งเป็นเวลา 55 วัน ในระยะทาง 2,191 กิโลเมตร เป้าหมายคือเงินบริจาค 700 ล้านบาท ซึ่งเรื่องที่น่าประทับใจก็คือ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่คนไทยก็บริจาคช่วยเหลือไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท
ในปี 2560 กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย มีกรอบงบประมาณอยู่ที่ 7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งต้องกระจายไปให้กับโรงพยาบาลรัฐประมาณ 10,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมันก็ไม่เพียงพอ ส่งผลให้โรงพยาบาลเล็ก ๆ มากมายในต่างจังหวัดต้องหั่นงบประมาณของตัวเองลงด้วย ทำให้อุปกรณ์ทางการแพทย์ขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนไข้
แล้วทำไม ตูน บอดี้สแลม ถึงต้องวิ่งเพื่อเหตุนี้ ? ทำไมเขาถึงไม่ร้องเพลงล่ะ ? สำหรับคำถามเหล่านี้ นักร้องหนุ่มได้เปิดเผยกับแชนแนลนิวส์เอเชียว่า...
"ผมเป็นนักร้อง ไม่ใช่นักกีฬามืออาชีพ ผู้คนมักถามว่าทำไมผมถึงไม่จัดคอนเสิร์ตเพื่อหาเงินช่วยเหลือโรงพยาบาลล่ะ แต่การจัดคอนเสิร์ตมันต้องใช้ต้นทุนสูง เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว เงินที่ได้ก็อาจจะเหลือน้อยนิด ไม่เพียงพอสำหรับการซื้ออุปกรณ์การแพทย์"
"ดังนั้นผมจึงคิดขึ้นมาว่า ถ้าผมจะระดมทุนโดยไม่ใช้ต้นทุนอะไรเลย นอกจากตัวผมเองล่ะ และถ้าตัวผมเองจะออกวิ่งไปเรื่อย ๆ โดยได้เงินบริจาคไประหว่างทาง และสะท้อนปัญหาสาธารณสุขไปด้วยในเวลาเดียวกันล่ะ" ตูน บอดี้สแลม ตอบคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยและคลางแคลงใจมาตลอด
ทั้งนี้ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้น ที่ได้มองเห็นความมุ่งมั่นของ ตูน บอดี้สแลม โดยความดีของเขายังโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศอีกด้วย โดย โม ฟาราห์ นักวิ่งเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก ก็ได้ออกมาชื่นชมในสิ่งที่ตูนทำ โดยเขาได้โพสต์ภาพตัวเองถือรองเท้าไนกี้ ที่มีข้อความให้กำลังใจว่า "ถึงตูน จงวิ่งต่อไปนะ !" ทิ้งสถิติทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง เพราะก้าวต่อไป คือการเริ่มต้นใหม่เสมอ
โม ฟาราห์ นักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิก ให้กำลังใจ ตูน บอดี้สแลม
อย่างไรก็ตาม แคมเปญของ ตูน บอดี้สแลม ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเป็นเรื่องที่ฉาบฉวยในช่วงสั้น ๆ และไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาว ซึ่งในส่วนนี้ นักร้องหนุ่มก็เปิดเผยว่า เขาไม่ได้ต้องการคำยกย่องสรรเสริญ เขาไม่ใช่ฮีโร่และไม่ใช่คนพิเศษมาจากไหนทั้งนั้น เขาแค่ต้องการเป็นสะพานเท่านั้นเอง
"ผมไม่ต้องการคำยกย่องสรรเสริญ ผมไม่ใช่ฮีโร่ และไม่ใช่คนพิเศษ สุดท้ายแล้ว ผมก็อยากเป็นแค่สะพานที่่เชื่อมโยงคนไทยเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้ถึงปัญหาในจุดนี้ ผู้คนที่สมควรได้การสรรเสริญ ก็คือ คุณหมอและพยาบาลทุก ๆ คน ผู้ทุ่มเททำงานหนักมาโดยตลอด" ตูน บอดี้สแลม กล่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mo Farah
ข้อมูลจาก moph.go.th, channelnewsasia.com
