เปิดสกู๊ปข่าว เหมาะสมหรือไม่ที่รุ่นพี่นักเรียนเตรียม วัยเทียบเท่ามัธยมปลาย กุมอำนาจสั่งซ่อมรุ่นน้องเกินกำลัง เผยเคยมีเคส นตท. ถูกลงโทษ ดื่มน้ำ 40 ลิตร จนเสียชีวิต
กรณีข่าว น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารที่เสียชีวิต ได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเกี่ยวกับการซ่อม หรือธำรงวินัย ในหมู่นักเรียนเตรียมทหาร ซึ่งหลายเสียงได้ออกมาระบุว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าจะรับได้ อีกทั้งยังตั้งคำถามว่า เป็นการเหมาะสมหรือไม่ที่รุ่นพี่ที่มีวุฒิภาวะมากกว่าแค่ 1-2 ปี จะมีอำนาจสั่งให้รุ่นน้องทำการอะไรที่รุนแรงขนาดนี้ นอกจากนี้การเสียชีวิตของ น้องเมย ยังไม่ใช่รายแรก และอาจจะไม่ใช่รายสุดท้ายที่เกิดเหตุเช่นนี้
ไม่ปฏิเสธว่าการฝึกของโรงเรียนเตรียมทหารไม่อันตรายถึงชีวิต เน้นย้ำระบบนักเรียนปกครอง ระบบพี่ดูแลน้องจำเป็นต้องมี ส่วนอำนาจการลงโทษ (ซ่อม) นั้นเหมาะสมหรือไม่ที่เป็นภาระที่ตกอยู่ในมือนักเรียนเตรียมทหารที่มีวัยวุฒิเทียบเท่ามัธยมปลาย
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมา ก็มีกรณีนักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตจากการโดนซ่อม คือ นตท. กรัณฑ์ อรชร นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 2 ที่ถูกซ่อมด้วยการให้ดื่มน้ำ 40 ลิตร จนเกิดภาวะน้ำเป็นพิษ ระบบร่างกายล้มเหลวและเสียชีวิต

ขณะที่ พล.ท. คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า การปกครองดังกล่าวเป็นการดูแลเรื่องวินัยเป็นหลัก ส่วนการลงโทษก็อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดอยู่แล้ว ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในกรอบและอยู่ในการกำกับของนายทหารปกครองด้วย
ทั้งนี้ เหตุการณ์ของ นตท. กรัณฑ์ เคยถูกนำไปวิพากษ์โดยตำรวจนายหนึ่งซึ่งเคยผ่านรั้วโรงเรียนเตรียมทหาร โดยเนื้อหาบางส่วนระบุถึงนักเรียนปกครอง อาจไม่เคยได้รับการอบรมว่า การสั่งลงโทษหรือออกกำลังกายในระดับไหนที่มนุษย์สามารถรับได้ โดยเฉพาะขีดจำกัดของนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้องวัยมัธยมปลาย
ขณะเดียวกันก็มีข้อถกเถียงอยู่ไม่น้อยว่าคำสั่งลงโทษควรจะให้ทำเพียงท่าออกกำลังกายมาตรฐานเท่านั้นหรือไม่ เพราะจากกรณีล่าสุดของ น้องเมย ก็เคยถูกสั่งลงโทษโดยการให้ทำท่าหัวปักพื้นจนหมดสติมาแล้ว
ภาพและข้อมูลจาก







