ประวัติ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ กับผลงานเด่น แห่ยกเป็นคนสำคัญ ไทย-อาเซียน


สุรินทร์ พิศสุวรรณ

           ย้อนประวัติ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ กับผลงานเด่นที่คนไทยและอาเซียนต่างยอมรับ อีกหนึ่งความสูญเสียใหญ่ในแวดวงการเมืองไทย


           ถือเป็นเรื่องที่ชวนตกใจไม่น้อยสำหรับผู้ที่ติดตามข่าวสารบ้านเมือง กรณีการเสียชีวิตของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีต รมว.ต่างประเทศและอดีตเลขาธิการอาเซียน ซึ่งจากโลกนี้ไปด้วยวัย 68 ปี จากภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน และในโอกาสนี้เราจะขอพาไปย้อนประวัติ และผลงานทางการเมืองของนักการเมืองท่านนี้ ว่าเพราะเหตุใดหลายฝ่ายจึงรู้สึกว่าข่าวนี้เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ในเมืองไทยและอาเซียน
ประวัติ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ 

ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ

          ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2492 เป็นคนบ้านตาล ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นลูกชายคนโตจากทั้งหมด 11 คน ในเรื่องการศึกษานั้น ดร.สุรินทร์ เข้าศึกษาในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดบ้านตาล, มัธยมศึกษาจากโรงเรียนพรสวัสดิ์วิทยา, โรงเรียนเบญจมราชูทิศ และโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช ตามลำดับ

           ในระดับปริญญาตรี ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้ศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเรียนปี 1-2 และได้รับทุน Frank Bell Appleby ไปศึกษาต่อ ปี 3-4 ด้านรัฐศาสตร์ที่ Claremont Men's College, Claremont University และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากที่นั่น และศึกษาในระดับปริญญาโทและเอกที่ Harvard University ด้านรัฐศาสตร์ โดยได้รับทุนจาก Rockefeller ภายใต้การสนับสนุนของ อ.เสน่ห์ จามริก

ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ กับหน้าที่การงานและตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ

          เมื่อปี 2525-2529 ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นอาจารย์ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนจะถูกทาบทามให้ลงสมัคร ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ในนามของพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะตอบรับและก็ได้รับเลือกตั้งในที่สุด

         เมื่อได้เป็น ส.ส. แล้วนั้น นายชวน หลีกภัย ได้ชักชวนให้ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ มารับหน้าที่เป็นเลขานุการประธานสภา หลังจากนั้นเมื่อมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ในปี 2531 ดร.สุรินทร์ ก็ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. อีกครั้ง และได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการให้กับ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จากนั้นในปี 2535 ดร.สุรินทร์ ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

          ต่อมาในปี 2540 เมื่อประเทศไทยประสบวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ดร.สุรินทร์ ถูกแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในปี 2540-2544 และได้มีบทบาทสำคัญในการนำพาประเทศกลับสู่ภาวะปกติ รวมถึงมีการผลักดันบทบาทของอาเซียนในการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างสมาชิกภายในอาเซียนอีกด้วย

ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ กับผลงานที่สำคัญในทางการเมือง

ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ

          ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ มีบทบาทสำคัญในเรื่องการต่างประเทศ ได้แก่ การรณรงค์หาเสียงให้ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้นต้องแข่งกับ นายไมค์ มัวร์ (Mike Moore) อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง โดยการแข่งขันนั้นดุเดือดจนอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ในท้ายที่สุด ดร.สุรินทร์ ก็ได้ทำข้อเสนอที่ให้ผลัดกันเป็นผู้อำนวยการใหญ่ WTO คนละ 3 ปี จนทุกฝ่ายพึงพอใจ

          นอกจากนี้ เมื่อราวปี 2540 ติมอร์-เลสเต ได้แยกตัวออกและจากอินโดนีเซีย จนเกิดความขัดแย้งและนองเลือด ซึ่งทั่วโลกต่างอยากให้เหตุการณ์ยุติ แต่ในท้ายที่สุดก็ได้ข้อยุติโดยมีฟิลิปปินส์กับไทยที่พร้อมจะส่งกองกำลังรักษาสันติภาพจำนวน 3,400 นาย ไปที่ติมอร์-เลสเต แต่ด้วยที่ทั้งไทยและฟิลิปปินส์ประสบปัญหาในวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ทำให้ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้ไปเจรจาของบ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากญี่ปุ่น ส่งผลให้การส่งกองกำลังร่วมไทย-ฟิลิปปินส์ เพื่อไปรักษาสันติภาพที่ติมอร์-เลสเต ประสบความสำเร็จ

          หลังจากครบวาระของรัฐบาลชวน หลีกภัย 2 (ปี 2540-2544) ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ไม่ได้รับตำแหน่งใด ๆ ในทางการเมือง จนในปี 2551 เป็นวาระที่ไทยจะต้องเป็นเลขาธิการอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศจึงมีมติให้เสนอชื่อ ดร.สุรินทร์ เป็นเลขาธิการอาเซียนตั้งแต่ ปี 2551-2555 ซึ่ง ดร.สุรินทร์ มีส่วนสำคัญในการผลักดันประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศให้สัตยาบันต่อกฎบัตรอาเซียนจนแล้วเสร็จในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 นอกจากนี้ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ยังได้รณรงค์และประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนทั้ง 10 ชาติตระหนักและรู้จักอาเซียนให้มากขึ้นอีกด้วย

แวดวงการเมืองร่วมไว้อาลัย ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ

ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ

           นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านแอปพลิเคชันไลน์ในบัญชีส่วนตัวว่า "ผมได้รับทราบข่าวการจากไปของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ด้วยความตกใจและเสียใจอย่างยิ่ง นับเป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่าไม่ใช่เฉพาะสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นความสูญเสียของประเทศและสังคมโลก ท่านเป็นบุคคลที่พร้อมด้วยความรู้ความสามารถและมีความมั่นคงในอุดมการณ์ที่นับวันหาได้ยากในแวดวงการเมือง"

           ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิธีศพของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ บนเฟซบุ๊กว่า เบื้องต้นจะทำพิธีที่บ้านท่าอิฐ จ.นนทบุรี ในวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2560

           นอกจากบุคคลในไทยแล้ว นายสเตฟฟาน เฮอร์สตรอม เอกอัครราชทูตสวีเดน ประจำประเทศไทย กล่าวบนทวิตเตอร์ว่า "ช็อกและเสียใจอย่างจริงใจที่สุดจากข่าวเกี่ยวกับการจากไปของอดีตเลขาธิการอาเซียน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ขอแสดงความเสียใจอย่างจริงใจถึงครอบครัวของเขา เราทุกคนต่างไว้ทุกข์แก่รัฐบุรุษ"

          นอกจากนี้ นายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย ของฮิวแมนไรต์วอตช์ กล่าวว่า การจากไปของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นการ "สูญเสียอย่างแท้จริงของประเทศไทยและภูมิภาค และยังคงเป็นเลขาธิการอาเซียนเพียงหนึ่งเดียวที่เข้าใจและสนับสนุนอาเซียนของภาคประชาชนอย่างแท้จริง"

ภาพและข้อมูลจาก
      wiki.kpi.ac.th, เฟซบุ๊ก Democrat Party, Thailand, ทวิตเตอร์ @StaffHerrst


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประวัติ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ กับผลงานเด่น แห่ยกเป็นคนสำคัญ ไทย-อาเซียน อัปเดตล่าสุด 1 ธันวาคม 2560 เวลา 12:03:32 37,914 อ่าน
TOP
x close