เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 เว็บไซต์ซีบีเอสบัลติมอร์ รายงานว่า เบนจามิน และ ทีนา กิ๊บสัน คู่สามีภรรยาชาวเมืองน็อกซ์วิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐฯ ต่างก็ปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างมาก หลังจากที่ เอ็มมา เร็น กิ๊บสัน ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขาลืมตาดูโลก หนูน้อยเอ็มมาคือแก้วตาดวงใจและปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ของพ่อและแม่ เธอไม่ใช่เด็กทารกที่ปฏิสนธิโดยวิธีธรรมชาติ แต่เกิดจากวิธีการนำตัวอ่อนแช่แข็งมาฝังในมดลูกของแม่ ซึ่งเธอได้สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการแพทย์ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะตัวอ่อนที่กลายมาเป็นเอ็มมานั้น ถูกแช่แข็งเก็บไว้นานกว่า 24 ปี !
ตัวอ่อนในที่นี้คือไข่และอสุจิของผู้บริจาค ที่ผ่านการผสมเรียบร้อยแล้ว และแช่แข็งเก็บเอาไว้ สำหรับตัวอ่อนที่มาเป็นหนูน้อยเอ็มมานั้น มีอายุมากกว่าคนอื่น ๆ เนื่องจากเป็นตัวอ่อนที่ถูกแช่แข็งไว้ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2535 ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว ช่วงเวลานั้นทีนาก็เพิ่งจะมีอายุแค่ 1 ขวบกว่า ๆ เท่านั้น แน่นอนว่าเคสของครอบครัวกิ๊บสันประสบความสำเร็จ โดยเอ็มมาลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สุขภาพร่างกายแข็งแรงทุกประการ
"เอ็มมาคือปาฏิหาริย์ของพวกเราครับ ผมคิดว่าเธอดูสมบูรณ์แบบมากเลยครับ ถึงแม้ว่าจะถูกแช่แข็งมาเป็นเวลานานมากก็ตาม" เบนจามิน กล่าว
ด้าน ดร.เจฟฟรีย์ คีแนน ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์ National Embryo Donation Center กล่าวว่า การมีลูกคือความฝันของครอบครัวกิ๊บสัน และศูนย์การแพทย์แห่งนี้ก็ยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ช่วยทำให้ความฝันนั้นกลายเป็นความจริงขึ้นมา และเขาก็หวังว่า คู่รักคู่อื่น ๆ จะได้ความหวังและแรงบันดาลใจจากครอบครัวนี้
ภาพจาก National Embryo Donation Center
ข้อมูลจาก dailymail