เปิดเรื่องราวของ เจ้าหญิงองค์สุดท้ายของเกาหลี กับชีวิตที่น่าเศร้าจนถึงวันสุดท้าย


Julia Mullock

           เปิดเรื่องราวของ จูเลีย มุลล็อก ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงองค์สุดท้ายของเกาหลี แต่ไม่เคยได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการเลย เพียงเพราะเธอเป็นชาวอเมริกัน จนต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง แม้กระทั่งในวันสุดท้ายของชีวิต

           วันที่ 6 ธันวาคม 2560 เว็บไซต์ nextshark เปิดเรื่องราวของ จูเลีย มุลล็อก (Julia Mullock) หญิงชาวอเมริกัน ผู้ได้รับสมญานามว่าเป็นเจ้าหญิงองค์สุดท้ายแห่งเกาหลี โดยเธอเป็นหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายยูเครน เกิดที่รัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนชีวิตของเธอจะพลิกผันได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์เกาหลี ด้วยการเป็นพระชายาของเจ้าชายอี กู ในราชวงศ์โชซอน แห่งเกาหลี กระทั่งเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2560 เธอได้เสียชีวิตลงอย่างโดดเดี่ยว ด้วยวัย 94 ปี ในรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา
Julia Mullock

           ลี นัม จู อดีตศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยหญิงซังชิน ในกรุงโซล เกาหลีใต้ และเป็นเพื่อนสนิทของจูเลีย เปิดเผยกับรายงานของ The Seoul Times ระบุว่า "จูเลียมีชีวิตในช่วงบั้นปลายอย่างโดดเดี่ยว เธอจากไปอย่างสงบและเดียวดายบนเตียงของโรงพยาบาล เธอป่วยหนักและอ่อนแรงมาก ทำให้เธอไม่สามารถโทรศัพท์บอกใครได้"

           สำหรับ จูเลีย มุลล็อก อดีตเธอเคยทำงานเป็นสถาปนิกอยู่ที่บริษัท IM Pei เกี่ยวกับด้านสถาปัตยกรรมในนครนิวยอร์ก จากนั้นในช่วงปี ค.ศ. 1950 (พ.ศ. 2493) เธอก็ได้พบกับเจ้าชายอี ที่ขณะนั้นทรงเพิ่งจบการศึกษาด้านสถาปัตยกรรม จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ในสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่จึงได้เริ่มต้นสานสัมพันธ์รักแสนโรแมนติกขึ้น โดยเจ้าชายอีพยายามที่จะตรัสประโยคภาษายูเครนที่ตรัสได้เพียงน้อยนิด เพื่อสร้างความประทับใจแรกแก่จูเลีย และมันก็ได้ผล จากนั้นในปี ค.ศ. 1959 (พ.ศ. 2502) ได้เสกสมรสที่โบสถ์คาทอลิกยูเครนนักบุญจอร์จ ในนครนิวยอร์ก แต่ไม่ใช่พิธีเสกสมรสอย่างเป็นทางการภายใต้ขนบธรรมเนียมประเพณีของเกาหลี ทำให้เธอไม่ได้รับการยอมรับในฐานะสมาชิกของราชวงศ์อย่างเป็นทางการ และไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนของราชวงศ์

Julia Mullock

           อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาจูเลียได้ตามเสด็จเจ้าชายอี กลับประเทศเกาหลี โดยประทับอยู่ภายในพระราชวังชังด็อกในโซล จูเลียก็ได้รับการเรียกขานว่า เจ้าหญิงจูเลีย อี แห่งเกาหลี และเริ่มต้นปฏิบัติพระราชกรณียกิจช่วยเหลือสังคมเรื่อยมา รายงานเผยว่า จูเลียได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าหญิงองค์สุดท้ายแห่งเกาหลีได้อย่างสมบูรณ์ ได้ช่วยเหลือคนยากไร้รวมทั้งคนพิการ เด็กยากไร้และพิการในเกาหลี ต่างเคารพและยกย่องเธอเป็นอย่างมาก และเรียกเธอว่า "แม่" นอกจากนี้ เธอยังเปิดห้องเสื้อเพื่อช่วยดำเนินกิจกรรมด้านการกุศลของพระสวามี และแม้กระทั่งภายหลังจากการหย่า เธอก็ยังคงปฏิบัติเช่นเดิม


Julia Mullock

           กระทั่งในปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) จูเลียซึ่งไม่สามารถมีทายาทได้ ต้องเผชิญแรงกดดันจากราชวงศ์ ประกอบกับได้รับแรงกดดันในขณะที่เป็นเจ้าหญิง เนื่องจากเธอเป็นคนชาติตะวันตกจึงไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกราชวงศ์ จนในที่สุดได้นำไปสู่การหย่ากับเจ้าชายอี

Julia Mullock

           ทั้งนี้ในช่วงชีวิตสมรส เมื่อช่วงต้นปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) จูเลีย ได้เคยไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับเจ้าชายอี ที่ฮาวาย  โดยเธอได้ปรนนิบัติดูแลพระสวามีอย่างดี ทำให้ที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยความทรงจำดี ๆ มากมาย ภายหลังจากหย่า เธอจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปใช้ชีวิตที่เหลือที่นั่น และเธอยังคงคิดถึงและเฝ้ารอจดหมายจากอดีตพระสวามีอยู่เสมอ กระทั่งเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2548 เจ้าชายอีสิ้นพระชนม์ด้วยภาวะหัวใจวาย แต่น่าเศร้า จูเลียไม่ได้รับเชิญให้ไปร่วมพิธีแต่อย่างใด เธอต้องแอบกล่าวคำลาอดีตพระสวามีที่รักจากที่ห่างไกล จนเมื่อผู้คนจากไปเธอถึงเข้าไปเคารพพระศพของเจ้าชายอี

           อย่างไรก็ดี แม้ว่าจูเลียจะถูกเรียกว่าเป็นเจ้าหญิง แต่เธอไม่เคยได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการเลย เพียงเพราะเลือดของเธอไม่ใช่คนเกาหลี กระทั่งถึงวันที่เธอต้องลาจากโลกไป เธอก็ต้องจากไปอย่างโดดเดี่ยวและน่าเศร้า แต่ทั้งนี้สิ่งที่เธอได้ปฏิบัติมาตลอดช่วงชีวิตได้แสดงให้เห็นว่า เธอได้ทำหน้าที่เจ้าหญิงองค์สุดท้ายแห่งเกาหลีได้เป็นอย่างดีที่สุด

Julia Mullock

ภาพจาก imperialhouse.kr
ข้อมูลจาก theseoultimes.com, koreajoongangdaily.joins.com

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดเรื่องราวของ เจ้าหญิงองค์สุดท้ายของเกาหลี กับชีวิตที่น่าเศร้าจนถึงวันสุดท้าย อัปเดตล่าสุด 28 ธันวาคม 2560 เวลา 15:30:53 100,171 อ่าน
TOP
x close