สหรัฐฯ อ่วม เผชิญพายุฤดูหนาว บอมบ์ไซโคลน หิมะพัดถล่มฝั่งตะวันออกขาวโพลน

          สหรัฐฯ เผชิญพายุฤดูหนาว บอมบ์ไซโคลน ถาโถมพัดกระหน่ำพื้นที่ฝั่งตะวันออก ส่งผลให้เกิดหิมะตกอย่างหนักและอากาศหนาวเย็นจัด มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 14 ราย

          เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2561 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า พายุฤดูหนาวที่มีกำลังรุนแรง หรือที่นักพยากรณ์บางราย เรียกว่า บอมบ์ไซโคลน ได้พัดถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้เกิดพายุหิมะโหมกระหน่ำ หิมะตกหนักจนขาวโพลนไปทั่วพื้นที่ อีกทั้งสภาพอากาศหนาวเย็นจัด อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 14 ราย

          โดยหน่วยงานการบริการด้านสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่า พายุดังกล่าวสามารถวัดกระแสลมได้มากถึง 113 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับ ประชาชนในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ทั้งที่บ้านพักอาศัยและสถานประกอบการธุรกิจ จำนวนเกือบ 80,000 แห่ง ต้องประสบปัญหาไม่มีไฟฟ้าใช้  โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่ต้องหยุดการเรียนการสอน เที่ยวบินจำนวนหลายพันเที่ยวถูกยกเลิก เนื่องจากสภาพอากาศ

          ทั้งนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยซึ่งเป็นผู้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ภายหลังจากถูกหิมะพัดถล่มอยู่กลางถนนในกรุงบอสตัน ในรัฐแมสซาชูเซตส์ โดยพื้นที่ในกรุงบอสตัน ปริมาณหิมะก่อตัวสูง 30 เซนติเมตร และมีเพิ่มมากขึ้นตามบริเวณถนน เช่นเดียวกับพื้นที่บางส่วนของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ถูกฝังกลบอยู่ภายใต้หิมะหนา

          ขณะที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติจำนวนเกือบ 500 นาย ได้รับคำสั่งให้กระจายกำลังไปยังพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่เป็นกังวลว่า อุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็วจะส่งผลให้หิมะบนพื้นถนนกลายเป็นน้ำแข็ง


          ทางสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ประกาศคำเตือนว่า พายุฤดูหนาวดังกล่าวจะส่งผลกระทบตลอดแนวชายฝั่งตะวันออก ตั้งแต่รัฐนอร์ทแคโรไลนา ไปจนถึงรัฐเมน ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของสหรัฐอเมริกา โดยมวลอากาศเย็นจะมีลักษณะเช่นนี้ต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า ซึ่งอุณหภูมิและลมหนาวเย็นจัดนี้จะส่งผลเป็นอันตรายต่อประชาชน โดยเบื้องต้น มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 14 ราย ตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา รวมถึงอุบัติเหตุจราจรที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา 4 ครั้ง อันเนื่องมาจากสถานการณ์ดังกล่าว