วันที่ 20 มกราคม 2561 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ (Government Shutdown) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่สภาคองเกรสถกเถียงกันอย่างหนักถึงประเด็นนโยบายผู้อพยพและการรักษาความปลอดภัยแถบชายแดนจนถึงนาทีสุดท้าย โดยในเวลาเที่ยงคืน ของวันศุกร์ที่ 19 มกราคม ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย สมาชิกสภาไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณได้ตามเวลาที่กำหนด
สมาชิกพรรคเดโมแครตส่วนใหญ่คัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากพวกเขาต่อต้านนโยบายกีดกันผู้อพยพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทางทำเนียบขาวก็ได้ออกมากล่าวหาว่า พรรคเดโมแครตเห็นความสำคัญเรื่องการเมือง มากกว่า ความมั่นคงของชาติ, เด็ก ๆ ที่ยากไร้, ครอบครัวของทหาร และความสามารถของประเทศชาติในการดูแลประชาชนอเมริกัน แต่อย่างไรก็ตาม นายชัค ชูเมอร์ หัวหน้าวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต ก็ได้กล่าวว่า ประธานาธิบดีต่างหาก คือผู้ปัดข้อตกลงประนีประนอมทิ้งไป และไม่ผลักดันพรรคของเขาให้มากพอ
ภาวะการปิดหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ คือการที่รัฐบาลไม่จ่ายงบประมาณให้กับหน่วยงานราชการต่าง ๆ เป็นการชั่วคราว ทำให้หน่วยงานหลายแห่งต้องปิดลง ยกเว้นหน่วยงานที่สำคัญ ๆ เช่น โรงพยาบาล และหอควบคุมการบิน และสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ชาวอเมริกันหลายแสนชีวิต โดยเฉพาะพนักงานหน่วยงานรัฐฯ ล้วนได้รับผลกระทบ ซึ่งในขณะนี้ เริ่มมีการก่อจลาจลขึ้นแล้ว
ภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาลในสหรัฐฯ เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อปี 2556 โดยกินเวลานาน 16 วัน สำหรับครั้งนี้ ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะกินเวลานานแค่ไหน
ข้อมูลจาก bbc.com