เปิดภารกิจตามหาแหวนหมั้นสุดระทึก ชายหนุ่มได้รับแหวนมรดกตกทอดมาจากพ่อของแฟนสาว แต่กลับทำหายไป เจ้าตัวเครียดหนักจนเกือบถอดใจ แต่สุดท้ายกลับได้คืนมาอย่างไม่น่าเชื่อ
การขอสาวในฝันแต่งงานนับเป็นเรื่องใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตของผู้ชาย ไม่ว่าใครก็อยากจะให้มันออกมาสมบูรณ์แบบ เพราะมันจะเป็นวันที่อยู่ในความทรงจำของคู่รักไปตลอด และสิ่งสำคัญของงานที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือแหวนหมั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นแหวนที่เป็นมรดกตกทอดมาด้วยนั้น ยิ่งมีความสำคัญและมีคุณค่าทางจิตใจเป็นอย่างมาก แต่มันจะกลายเป็นฝันร้ายแค่ไหน หากพบว่า แหวนวงนั้นอันตรธานหายไป...
เนื่องจากแหวนวงดังกล่าว เป็นสมบัติตกทอดที่มีคุณค่าทางจิตใจมาก นิโคจึงนำมันใส่ตู้เซฟเก็บไว้เป็นอย่างดี เพื่อรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะนำมันออกมาใช้ ซึ่งในตอนนั้น นิโคยังไม่พร้อม เขาอยากจะทำตามความฝันในการไปท่องเที่ยวกับเคทีก่อน
จากนั้นวันเวลาได้ผ่านไป กระทั่งวันหนึ่งที่นิโคและเคทีได้จ้างรถขนของ มาขนข้าวของของพวกเขา เพื่อย้ายเข้าไปยังบ้านหลังใหม่ของทั้งคู่ที่อยู่อีกเมือง ด้วยความที่นิโคต้องการเก็บของสำคัญอย่างแหวนหมั้นเอาไว้กับตัว จึงนำมันออกมาจากตู้เซฟ ใส่ถุงพลาสติก แล้วใส่ไว้ในกล่องอีกชั้น ก่อนจะใส่มันลงในกระเป๋าเป้
เมื่อไปถึงจุดหมาย และนิโคก็ต้องการนำแหวนออกมา แต่แล้วเขากลับต้องช็อก เมื่อพบว่า กระเป๋าเป้ของเขาถูกรูดซิปเปิดออก และกล่องใส่แหวนได้หายไปแล้ว ด้วยความเครียดอย่างหนัก นิโคถึงกับวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำทันที ในตอนนั้น เขาคาดเดาว่าจะต้องเป็นพนักงานขนของที่ขโมยแหวนไปอย่างแน่นอน เขาจึงรีบโทรศัพท์ติดต่อไปหาพวกเขา แต่ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด จึงเป็นที่เข้าใจว่า แหวนวงนั้นได้หายไปแล้ว
หลังจากนั้น นิโคจำเป็นต้องขับรถพาเคทีไปรับคุณพ่อของเธอที่สนามบิน โดยระหว่างทาง นิโคนั่งเงียบไปตลอดทาง ด้วยความที่เครียดและไม่รู้จะทำอย่างไรต่อจากนั้นดี เขาส่งข้อความไปหาสจ็วตว่า มีเรื่องจะบอกเป็นการส่วนตัว พอไปถึงสนามบิน เคทีนั่งรออยู่ในรถ ส่วนนิโครีบวิ่งเข้าไปรับสจ็วตและแจ้งข่าวร้ายให้เขาทราบ
"มันเป็นอะไรที่เลวร้ายมาก ไม่เพียงแต่แหวนสำคัญวงนั้นจะหายไป แต่คุณพ่อของเคทีเพิ่งทำใจได้ ภายหลังจากคุณแม่ของเขา ซึ่งเป็นเจ้าของแหวนวงนั้น เพิ่งจะเสียชีวิตจากไปเมื่อ 9 เดือนก่อน" นิโค อธิบายถึงสถานการณ์ในตอนนั้น ทว่าสจ็วตกลับนิ่งและใจเย็น พร้อมบอกกับนิโคว่า เดี๋ยวปัญหาก็มีทางออก
นิโครีบขับรถไปส่งเคทีและพ่อที่บ้าน จากนั้นรีบติดต่อส่งข้อความไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ระบุไว้บนโน้ต และพิสูจน์จนทราบว่ามันเป็นแหวนของเขาจริง ๆ โดยพลเมืองดีคู่นี้พบมันที่ตรอกทางเดินใกล้ ๆ กับที่ทำงานของพนักงานส่งของ นิโคเชื่อว่าพนักงานส่งของจะต้องเป็นคนปามันทิ้งออกมาโดยคิดว่าในกล่องนี้มีแค่ถุงพลาสติก ไม่รู้ว่ามันมีแหวนอยู่ด้านใน
แม้กระทั่ง ทางพลเมืองดีผู้ที่พบแหวนก็ยังบอกว่า พวกเขาก็เกือบทิ้งกล่องดังกล่าวไปแล้วเช่นกัน แต่เหมือนบางอย่างดลใจให้เขาเปิดดูในถุงพลาสติก แล้วก็พบว่ามีแหวนอยู่ด้านในจริง ๆ และสุดท้ายมันก็ได้กลับมาอยู่ในมือของนิโค เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก ราวกับปาฏิหาริย์มีจริง
จากนั้น 2-3 สัปดาห์ นิโคและเคทีก็เดินทางไปทริปในฝันด้วยกันที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเมื่อวันสิ้นปีที่ผ่านมา นิโคก็ตัดสินใจคุกเข่าขอเคทีแต่งงานในเมืองนั้น ด้วยแหวนหมั้นที่ทรงคุณค่าวงนั้น และเธอตอบตกลง สุดท้าย นิโคก็ได้สารภาพเล่าเรื่องราวของแหวนที่หายไปและได้กลับมาให้เคทีได้ฟัง และแน่นอนว่า แขกคนสำคัญที่เขาจะพลาดเชิญมาร่วมงานไม่ได้เลยนั่นก็คือ พลเมืองดีคู่นั้นที่เป็นคนพบแหวนและนำมันกลับคืน ทำให้ทั้งคู่มีวันนี้ได้ในที่สุด