เสือดำ สัตว์นักล่าแห่งพงไพร อีกสิ่งสะท้อนความสมบูรณ์ของป่า สัตว์ป่าคุ้มครองที่ถูกห้ามล่าหรือมีไว้ในครอบครอง ใครฝ่าฝืนมีความผิดแน่นอน
นับเป็นคดีเย้ยกฎหมายที่ถูกสังคมจับตาในขณะนี้ สำหรับกรณีการจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก ซึ่งได้เข้ามาตั้งแคมป์พักบริเวณจุดห้ามตั้ง ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี พร้อมกันนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณที่พัก ยังพบอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุน และซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หลายชนิด รวมถึงซากเสือดำ ที่ถูกชำแหละและถลกหนัง นำมาซึ่งเสียงประณามของคนในสังคม และเกิดความกังวลว่าผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงและมีเงินหนา จะหลุดคดีหรือไม่ [อ่านข่าว : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี]
จากเหตุที่เกิดขึ้น นำมาซึ่งความน่าสลดใจในชะตากรรมของเสือดำที่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากเสือดาวนั้นเป็นหนึ่งในสัตว์ป่าที่เป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่า โดย เสือดำ เป็นสัตว์ที่อยู่ในครอบครัวเดียวกับ เสือดาว มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Panthera pardus มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งถูกจัดอยู่ในวงศ์เสือและแมว (Felidae) เป็นเสือขนาดใหญ่รองจากเสือโคร่ง พบได้ในป่าหลายพื้นที่ รวมถึงที่ประเทศไทย
เสือดำมีลักษณะอันโดดเด่นอยู่ที่สีของมัน ซึ่งเป็นสีดำที่ลำตัวและลวดลายตลอดทั้งตัว มีความดุร้ายมากกว่าเสือดาว เป็นสัตว์ที่ว่องไวและแข็งแรง นับเป็นอีกหนึ่งนักล่าแห่งพงไพรที่น่าเกรงขาม
เสือดำ สัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามล่า-มีไว้ในครอบครอง
ด้วยสถานภาพของเสือดำที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มันถูกจัดเป็นสัตว์ป่าหายาก และนับเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 182 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดทำการล่า หรือมีไว้ในครอบครอง ตามมาตรา 16 ห้ามมิให้ผู้ใดล่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง และมาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา 16 มาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เสือดำอวดโฉมหน้ากล้อง พิสูจน์ความสมบูรณ์ของธรรมชาติ
แม้เสือดำจะเป็นสัตว์ป่าที่หาได้ยาก แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีรายงานการพบเสือดำออกมาปรากฏโฉมต่อหน้ากล้องดักถ่ายสัตว์ป่าได้หลายครั้ง โดยเมื่อเดือนกันยายน 2559 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกับกองทุนสัตว์ป่าสากล (WWF) ประเทศไทย นำกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าไปติดตั้งไว้ในพื้นที่รอบป่ายาง ภายในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อสำรวจจำนวนประชากรเสือดาวในเขตอุทยานฯ จนสามารถบันทึกภาพของเสือดำและเสือดาว ที่เข้ามาหากินในพื้นที่ดังกล่าวไว้ได้ ภายหลังจากที่เกิดภัยแล้งอย่างรุนแรงในพื้นที่อุทยาน จนสัตว์ผู้ล่าและสัตว์เหยื่อได้เข้ามาใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำหากินในพื้นที่นี้
ขณะที่ในเดือนมีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ก็สามารถบันทึกภาพวิดีโอของเสือดำจากกล้องดักถ่ายภาพบริเวณถนนเส้นคลองลาน-อุ้มผาง ระหว่างอุทยานแห่งชาติแม่วงก์และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จ.ตาก ซึ่งภาพวิดีโอเสือดำนี้เป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าป่ามีความสมบูรณ์มากขึ้นนับจากมีการปิดถนนเส้นดังกล่าวในปี 2520 โดยเฉพาะสัตว์ที่อยู่ระดับบนของห่วงโซ่อาหารกระจายตัวมากขึ้นในพื้นที่ทั้ง เสือโคร่ง เสือดาวเสือดำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความสมบูรณ์ของป่าเริ่มฟื้นกลับมาและควรเพิ่มการอนุรักษ์มากขึ้น
คลิปเสือดำเล่นกล้อง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จ.ตาก
ข้อมูลจาก ราชกิจจานุเบกษา, ราชกิจจานุเบกษา, สวนสัตว์นครราชสีมา, Twitter @WWFThailand, เฟซบุ๊ก สัตว์โลกอมตีน
ภาพและข้อมูลจาก
, , , Google map
