สลด...ด.ญ. ชาวลาววัย 13 ถูกลูกชายนายจ้างลวงไปขายตัว ล้างหนี้ยาเสพติด !

           เด็กหญิงชาวลาว วัย 13 ถูกลูกชายนายจ้างล่อลวงไปขายตัวแลกหนี้กับยาเสพติด หลังเอเย่นต์ค้ายาประกาศ "จะยกเงินที่ค้างให้ ไม่ต้องจ่ายสักบาท" ตำรวจบุกรวบ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก

           จากกรณี เด็กหญิงชาวลาว วัย 13 ปี ถูกนายวิทยา เก้าเอี้ยน หรือ เบส อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนายจ้างแปลงเพาะพันธุ์กล้ายางพารา ใน ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน ล่อลวงไปให้เพื่อน ซึ่งเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่ข่มขืนกลางสวนยางพารา เพื่อแลกกับค่ายาเสพติดที่ติดค้างอยู่ จำนวน 1 แสนบาท และนำตัวเด็กหญิงไปนอนค้างที่บ้านด้วยกัน ก่อนจะปล่อยให้กลับบ้านในวันรุ่งขึ้น โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา
           ความคืบหน้า ล่าสุด (9 กุมภาพันธ์ 2561) พ.ต.อ. ทรงเกียรติ ทองสง ผู้กำกับการ สภ.ปะเหลียน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวคมชัดลึก ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีคนร่วมแก๊งตั้งวงเสพยาเสพติดทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายวิทยา เก้าเอี้ยน หรือ เบส อายุ 27 ปี, นายกำพล สุนทรกิจจา หรือ เบิร์ด อายุ 33 ปี, นายวิทวัตร ชูอ่อน หรือ บังมัด, นางสาวบุษบา มะวงศ์ศูนย์ หรือ นิ่ม อายุ 31 ปี ภรรยาบังมัด และนางปวีณา ชูแก้ว หรือ แอน หรือ หญิงอ้วน อายุ 42 ปี


           ทั้งนี้ เบิร์ด, บังมัด, นิ่ม และหญิงอ้วน ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม พร้อมของกลางยาบ้า 82 เม็ด เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2561 โดยนายเบิร์ด และบังมัด ถูกตั้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง และร่วมกันเสพยาเสพติดให้โทษ ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่เรือนจำจังหวัดตรัง

           ขณะที่ผลตรวจดีเอ็นเอจากช่องคลอดของผู้เสียหายออกมาแล้ว พบว่าตรงกับนายเบิร์ด ทางเจ้าหน้าที่เตรียมอายัดตัว และแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และข้อหาพรากผู้เยาว์เพิ่มอีก 2 กระทง

           ด้าน นายวิทยา หรือ เบส ซึ่งเป็นลูกชายนายจ้างที่นำตัวเด็กหญิงไปจากพ่อแม่ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเช่นกัน และตำรวจก็ได้ปล่อยตัวกลับไป โดยแจ้งข้อหาหนักรวม 3 ข้อหา คือ พรากผู้เยาว์, ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปเพื่อค้าประเวณี หรือเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น

           สำหรับ นางสาวบุษบา ภรรยาบังมัด และนางปวีณา เจ้าหน้าที่ตรวจพบปัสสาวะสีม่วง และจากการสอบสวนพบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของนายเบิร์ดต่อเด็กหญิง จึงถูกตั้งข้อหาเสพสารเสพติด ซึ่งขณะนี้ได้ถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดแล้ว


           ทั้งนี้ เมื่อสอบถามแม่ของเด็กหญิงวัย 13 ปี เล่าว่า ครอบครัวทำงานเป็นลูกจ้างเป็นเวลา 7 ปี อยู่ภายในแปลงเพาะพันธุ์กล้ายางของนายจ้างรายหนึ่ง ซึ่งเป็นนักการเมืองในพื้นที่ อ.ปะเหลียน ในวันเกิดเหตุ 17 มกราคม ที่ผ่านมา เด็กหญิงออกไปกลางแปลงยาง ระหว่างนั้น นายเบส ลูกชายของนายจ้าง ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในแปลงยาง และออกอุบายหลอกให้เด็กหญิงซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วยกัน

           เด็กหญิงวัย 13 ปี เล่าว่า นายเบส ได้พาตนเข้าไปในสวนยางพาราอีกหมู่บ้านหนึ่ง แล้วพบกับเพื่อนของนายเบสกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งเสพยากันอยู่ ตนขอกลับบ้านแต่ถูกรั้งเอาไว้ จากนั้นก็มีการดื่มเหล้าต่อ และเวลาผ่านไปนายเบสก็พยายามจะลวนลาม ต่อมาได้ยินนายเบสคุยกับนายเบิร์ดว่า "ยกให้" จากนั้นนายเบิร์ดก็ลงมือข่มขืน ซึ่งตนไม่กล้าขัดขืน เพราะกลัวถูกทำร้าย กระทั่งมีผู้หญิงตามมาสมทบถามว่า ตนเป็นใคร ก็ได้ยินเสียงคนตอบว่า "เป็นของเอเย่นต์เบิร์ด ถ้านายเบสหามาได้ จะยกเงินที่ค้างให้ ไม่ต้องจ่ายสักบาท"

           โดยสองแม่ลูกยืนยันว่า เคยเห็นนายเบิร์ดไปทวงค่ายาเสพติดจากนายเบสและนายจ้างเป็นเงิน 1 แสนบาท แต่นายจ้างไม่มีให้ จึงเอาเด็กหญิงชาวลาวไปให้เอเย่นต์ เพื่อแลกกับหนี้ค่ายาเสพติดดังกล่าว

ภาพและข้อมูลจาก brighttv

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก