สหรัฐฯ ร่วมมือพันธมิตร ประกาศถล่มซีเรีย หลังรัฐบาลใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชน

           สหรัฐฯ จับมือ ฝรั่่งเศสและอังกฤษ ประกาศใช้กำลังถล่มซีเรีย หลังรัฐบาลใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน ทรัมป์ ลั่น เป็นการกระทำสุดป่าเถื่อน ด้านกลาโหมรัสเซียโต้กลับ ชี้ไม่มีการโจมตีจริง แค่การจัดฉากใส่ร้าย

           วันที่ 14 เมษายน 2561 เว็บไซต์นิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า สหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยประเทศพันธมิตรยุโรป จะดำเนินการถล่มซีเรีย เพื่อเป็นการตอบโต้และลงโทษนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย โทษฐานใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชน บริเวณฐานที่มั่นกลุมกบฏในเขตพื้นที่เมืองโดมา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงดามัสกัส โดยหน่วยกู้ภัยและทีมแพทย์ในพื้นที่เปิดเผยว่า เฮลิคอปเตอร์ของรัฐบาลรัสเซีย ได้ทิ้งระเบิดซึ่งปลดปล่อยแก๊สพิษออกมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 43 ราย โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประณามว่ามันเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนอย่างมาก ฝรั่งเศสกับอังกฤษจะร่วมมือกับสหรัฐฯ และปฏิบัติการตอบโต้ซีเรียกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

           "ผมได้สั่งการให้กองทัพสหรัฐฯ ดำเนินการตอบโต้นายบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำเผด็จการของซีเรีย โทษฐานใช้อาวุธเคมี สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่วิสัยที่มนุษย์พึงกระทำ แต่มันคืออาชญากรรมของปีศาจร้าย เราพร้อมจะโจมตีไปเรื่อย ๆ จนกว่าซีเรียจะยุติการใช้อาวุธเคมี" ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวแถลงการณ์ ณ ห้องการทูต ทำเนียบขาว

           ด้านนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ กล่าวว่า การดำเนินการตอบโต้ดังกล่าว ไม่ได้เป็นมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องชีวิตของผู้บริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังทำเพื่อป้องกันไม่ให้การใช้อาวุธเคมีลุกลามบานปลายเป็นปัญหาระดับนานาชาติ และพยายามใช้วิธีทางการทูตในทุก ๆ ช่องทาง เพื่อทำให้เรื่องนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ ในขณะที่ นางนิกกี้ อาร์ ฮาเลย์ ทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีต้องห้ามในสงครามกลางเมืองมาแล้วมากกว่า 50 ครั้ง ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้อาวุธเคมีที่ใช้ในการโจมตีล่าสุดคือสารชนิดได้ ซึ่งองค์การห้ามอาวุธเคมีก็กำลังเร่งตรวจสอบแล้ว

           อย่างไรก็ตาม ผู้นำอิหร่าน ซีเรีย และรัสเซีย ก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยอ้างว่าหน่วยกู้ภัยและกลุ่มกกบฏ ได้ทำคลิปวิดีโอขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสงสารเห็นใจจากชาวโลก โดยพันเอกอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า ภาพเหยื่อการโจมตีที่ถูกเผยแพร่ เป็นเพียงหลักฐานปลอมที่ถูกจัดฉากขึ้นโดยอังกฤษ และเขาก็อ้างด้วยว่ามีหลักฐานว่าเป็นเรื่องจริง

ข้อมูลจาก usatoday.com