ภาพจาก KOREAN BROADCASTING SYSTEM / AFP
คิมจองอึน - มุนแจอิน ข้ามเส้นแบ่งเขตแดนของทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ พร้อมเริ่มการเจรจาสันติภาพ ด้านคิมจองอึนชี้ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
วันที่ 27 เมษายน 2561 สำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า คิมจองอึน ถือเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรก ที่ได้เหยียบเข้าไปบนพื้นที่ควบคุมทางทหารของเกาหลีใต้ เพื่อร่วมจับมือและประชุมกันกับ นายมุนแจอิน ผู้นำเกาหลีใต้
ภาพจาก KOREAN BROADCASTING SYSTEM / AFP
การตัดสินใจย่างเท้าเข้าสู่เขตแดนที่มีการติดอาวุธหนาแน่นที่สุดในโลกครั้งนี้ ถูกถ่ายทอดสดออกไปทั่วเกาหลีใต้และทั่วโลก ซึ่งทุกคนได้หันมาจับตาถึงเจตนาที่แท้จริงของนายคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือวัย 34 ปี
รายงานระบุว่า นายคิมจองอึน ได้ออกมาจากสำนักงานที่ทำการบริเวณเขตแดนของเกาหลีเหนือ ในหมู่บ้านปันมุนจอม เขตปลอดทหาร ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ และเดินเข้าสู่เส้นแบ่งเขตแดน ซึ่งในตอนนั้น นายมุนแจอินได้ยืนรออยู่ ทั้งสองคนยิ้มและจับมือกันเหนือพื้นคอนกรีตที่มีสัญลักษณ์กั้นเขตแดนระหว่าง 2 เกาหลี
จากนั้น นายมุนแจอึน ได้เดินเข้ามาในเขตแดนของเกาหลีเหนือ และนายคิมจองอึน ได้เดินเข้ามาในเขตแดนของเกาหลีใต้ และเดินไปตามพรมแดง พร้อมกับที่นายคิมจองอึน ได้ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ และเดินเข้าสู่สำนักงานสันติภาพ
ภาพจาก KOREAN BROADCASTING SYSTEM / AFP
ด้านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายคิมจองอึน ได้เซ็นลงในสมุดเยี่ยมในการประชุมสองผู้นำเกาหลี ในสำนักงานสันติภาพที่ตั้งอยู่ระหว่าง 2 เกาหลีว่า "ประวัติศาสตร์บทใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว" และ "เราได้มาถึงจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยแห่งสันติภาพ"
ในส่วนของการเปิดการประชุมในห้องประชุมนั้น รัฐบาลเกาหลีได้ส่งคำแปลอย่างเป็นทางการมา ดังนี้
คิมจองอึน "ตอนนี้ ได้มีความคาดหวังอย่างสูง และเราเองได้รับบทเรียนจากยุคก่อนหน้านี้ และถึงแม้ว่าเราจะสามารถหาข้อตกลงไปกันด้วยดี แต่หากเราไม่สามารถปฏิบัติอย่างได้ผลแล้ว ผู้ที่คาดหวังย่อมจะผิดหวัง เราได้สูญเสียเวลาไปทั้งสิ้น 11 ปี (นับตั้งแต่การเจรจาสันติภาพครั้งก่อน) และขอให้ครั้งนี้ เราจะไม่เสียเวลาอีก เราเองควรจะมีการประชุมบ่อยกว่านี้ และร่วมมือร่วมใจกัน แล้วเวลา 11 ปีที่ผ่านมาก็จะไม่สูญเปล่า ผมหวังที่จะเขียนหน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่ระหว่างเรา และหวังว่าเราจะร่วมมือกันเพื่อเริ่มต้นใหม่ นี่ถือเป็นพันธสัญญาที่ผมมาในการประชุมครั้งนี้"
มุนแจอิน "ในตอนนี้ ฤดูใบไม้ผลิได้แผ่ปกคลุมทั่วเกาหลีใต้ (สื่อถึงการเริ่มต้นใหม่) และผมเชื่อว่า การพบกันครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพวกเราทุกคน และนั่นหมายความว่า นี่ถือเป็นภาระหนักอย่างยิ่งที่สหายคิมของเราต้องแบกรับไว้ นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการข้ามเส้นแบ่งเขตแดนทางการทหาร ซึ่งเส้นแบ่งเขตนี้ จะไม่ใช่สัญลักษณ์ของการแบ่งแยกอีกต่อไป หากแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ผมขอยกย่องความกล้าหาญและการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวของคุณ ผู้นำคิม"
ภาพจาก KOREAN BROADCASTING SYSTEM / AFP
ในส่วนหัวข้อของการประชุมนั้น คือการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในบริเวณคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งข้อตกลงด้านความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ รวมถึงการเจรจาสันติภาพระหว่าง 2 เกาหลีอย่างเป็นทางการ ซึ่งแม้ว่าสงครามเกาหลีจะได้ตกลงเซ็นสัญญาหยุดยิงแล้ว แต่ในความเป็นจริงนั้น ทั้งสองประเทศยังถือว่าทำสงครามกันอยู่
ภาพจาก GREG BAKER / afp
ภาพจาก GREG BAKER / AFP
ภาพจาก Jung Yeon-je / AFP
ภาพจาก Jung Yeon-je / AFP
ภาพจาก Ed JONES / AFP