x close

แม่โพสต์โวย ลูกชายโดน ตร. ซ้อมยับ ให้รับคดีฆ่าคนตาย ยันลูกเป็นคนร่าเริง ไม่เคยมีเรื่อง

คดีฆ่าคนตาย

         แม่โพสต์เฟซบุ๊กโวย ลูกชายโดนตำรวจซ้อม ให้รับสารภาพคดีฆ่าคนตาย ยันลูกเป็นคนร่าเริง ไม่เคยทะเลาะกับใคร ด้านตำรวจชี้แจงชัด ไม่มีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น ถ้าตั้งใจทำภาพลักษณ์ตำรวจเสียหาย ก็จะดำเนินคดี

         เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปพูดคุยกับ นายพงศธร พุ่มราตรี หรือ เอ็ม อายุ 27 ปี หลังจากที่ น.ส.องุ่น พุ่มราตรี อายุ 52 ปี ผู้เป็นแม่ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย กล่าวว่า นายพงศธรถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ทำร้ายร่างกาย และบังคับให้รับสารภาพคดียิงคนตายที่วัดเกาะ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำ จนสุดท้ายโดนตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธปืน

คดีฆ่าคนตาย
คดีฆ่าคนตาย
นายพงศธร พุ่มราตรี

         โดย นายพงศธร เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา วันนั้นตนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยกำนัน ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามโรงเรียนระเบียบศึกษา และมาจอดรถ นั่งคุยเล่นอยู่กับเพื่อนที่หน้าร้านขายของชำ สักพักตนก็ออกไปคุยโทรศัพท์ พอกลับมาที่เดิม ก็พบกับ นายซิ่ง ซึ่งเป็นคนรู้จัก แต่ก็ไม่ได้สนิทกันเป็นพิเศษ ตนจึงนั่งคุยด้วยและได้กลิ่นเหล้าโชยออกมาจากตัว เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที นายซิ่งขอตัวกลับบ้าน ด้วยความที่พื้นที่ซอยนั้นคับแคบ ไม่สามารถกลับรถได้ ตนจึงอาสาไปโบกรถให้นายซิ่ง เพราะกลัวว่าจะถอยไปชนชาวบ้าน โดยถามไปว่า "เมาหรือเปล่า เดี๋ยวไปโบกรถให้"

         หลังจากนั้น นายซิ่งได้ถอยรถออกจากซอย แต่ถอยไม่ตรงทางและไปชนกระถางตนไม้ ตนจึงอาสาไปถอยรถให้ นายซิ่งได้ลงมาจากรถ ทำท่าจะมาขอบคุณ แต่ก็ไม่ได้เดินตามรถมา และเดินสวนออกไปทางอื่น แต่ตนไม่ได้สังเกตว่านายซิ่งไปไหน เพราะต้องใช้สมาธิในการถอยรถ เนื่องจากฝนตกและไฟดับ และขณะที่กำลังก้มลงมองคันเกียร์เพื่อจะถอยรถนั้น ตนเงยหน้ามาเห็นนายซิ่งยิงคน ตอนนั้นตนตกใจมาก รีบคุมสติและลงจากรถ


         นายพงศธร เล่าต่อว่า ตอนนั้นตนถามนายซิ่งว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ ตนยอมรับว่าไม่กล้าเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บ เพราะกลัวว่าจะมีความผิด ต่อมามีคนเดินมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอตนจะหันไปถามนายซิ่ง ก็ไม่เจอตัวแล้ว ยืนยันว่าตนบริสุทธิ์ใจ และรอจนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ตนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และก็เดินทางไปสอบปากคำที่ สน.สายไหม ในเวลาประมาณ 04.00 น. ซึ่งตนไปคนเดียว

         นายพงศธร เล่าอีกว่า ในห้องสืบสวนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศสูงหลายนาย และมีตำรวจยศ พ.ต.ท. นายหนึ่ง ถามตนว่า "มึงจะรับไหมว่ามึงเป็นคนทำ" และทำร้ายตน โดยตบที่ใบหน้าด้านซ้ายจนล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นก็กระทืบตน และใช้รองเท้าตีศีรษะ ต่อมาก็พาไปที่หน้าห้องขัง แจ้งข้อหาตนว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธปืน และนำตนไปที่ศาลอาญา รัชดา

คดีฆ่าคนตาย
นายพงศธร แสดงท่าทางป้องกันตัว ขณะถูกทำร้าย

         นายพงศธรยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่เคยพกพาอาวุธปืน และไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ตอนนี้ต้องตกเป็นผู้ต้องหา ก็ยอมรับว่ารู้สึกแย่ แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ และอยากออกมาขอความเป็นธรรม ตอนนี้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้เงินประกันตัว 130,000 บาท และได้สวมกำไลข้อเท้า EM (เครื่องติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์) เอาไว้

         ด้าน น.ส.องุ่น แม่ของนายพงศธร เปิดเผยว่า ตนได้คุยรายละเอียดกับลูกชายแล้ว และมั่นใจว่าลูกไม่ได้เป็นคนก่อเหตุอย่างแน่นอน เพราะลูกตนเป็นคนอุปนิสัยร่าเริง และไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับใครมาก่อน แต่ลูกกลับต้องมาโดนคดี ซึ่งโทษสูงสุดคือประหารชีวิต เมื่อเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาลูกตนเช่นนี้ ในฐานะคนเป็นแม่ ก็ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ติดต่อมาหา และตนไม่อยากพูดถึงเรื่องคดี คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย

         ทางด้านข้อมูลจากสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น วันที่ 5 พฤษภาคม 2561 ระบุว่า  พ.ต.อ. ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม พร้อมด้วย พ.ต.ท. ประพจน์ อนุศิริ รอง ผกก.สส.สน.สายไหม และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าว โดยกล่าวว่า ในวันที่ 28 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายพงศธร มาสอบสวนข้อเท็จจริงเนื่องจากอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยไม่ได้มีการแตะเนื้อต้องตัวใด ๆ และไม่ได้ใส่กุญแจมือ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนพร้อมทนายความ ซึ่งนายพงศธรให้การปฏิเสธ

คดีฆ่าคนตาย
พ.ต.ท. ประพจน์ อนุศิริ รอง ผกก.สส.สน.สายไหม

         หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิด โดยจากการตรวจสอบ พบว่านายพงศธรลงมาจากรถของมือปืน ทั้งสองเดินไปดูร่างของผู้เสียชีวิตด้วยกัน และมือปืนก็ได้หลบหนีไปหลังจากนั้น ต่อมาศาลได้มีการอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ถ่ายรูปนายพงศธรเพื่อทำประวัติ ในเวลาประมาณ 15.00 น. ซึ่งตอนนั้นนายพงศธรยังมีสภาพร่างกายปกติดี และไม่มีบาดแผลใด ๆ

         แต่ต่อมาในวันที่ 30 เมษายน นายพงศธรได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เพื่อเอาผิดกับ พ.ต.ท. ประพจน์ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และในวันที่ 3 พฤษภาคม น.ส.องุ่น ก็ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กว่านายพงศธรถูกทำร้าย

คดีฆ่าคนตาย

         ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังชี้แจงอยู่นั้น นายพงศธร และ น.ส.องุ่น ได้เดินทางเข้ามาที่ สน.สายไหม ท่ามกลางความงุนงงของผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ พร้อมกับกล่าวขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว โดย น.ส.องุ่น กล่าวว่า ภาพกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่เอามาเป็นหลักฐาน เป็นภาพที่ตัดต่อมา ตนมีหลักฐานว่าลูกของตนไม่ได้มากับทางมือปืน และมีหลักฐานการตรวจร่างกายจากทางโรงพยาบาลว่าถูกทำร้ายร่างกายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำภาพถ่ายขณะสอบสวน และภาพถ่ายตอนทำประวัติมาให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งก็พบว่าร่างกายของนายพงศธรไม่มีร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด

คดีฆ่าคนตาย

         พ.ต.อ. ทนงศิลป์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานไว้ก่อน ถ้าพบว่าทางนายพงศธร ตั้งใจทำให้ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เสียหาย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่มีการขอเจรจากับทางผู้ต้องหาเพื่อขอไกล่เกลี่ยตามข่าวที่ปรากฏแต่อย่างใด

ภาพและข้อมูลจาก
amarintv.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แม่โพสต์โวย ลูกชายโดน ตร. ซ้อมยับ ให้รับคดีฆ่าคนตาย ยันลูกเป็นคนร่าเริง ไม่เคยมีเรื่อง อัปเดตล่าสุด 8 พฤษภาคม 2561 เวลา 14:00:33 3,167 อ่าน
TOP