จีนเล็งยกเลิกควบคุมบุตร หวั่นกระทบเศรษฐกิจ พร้อมกระตุ้นให้มีลูกแบบเสรี


         รัฐบาลจีนพิจารณายกเลิกนโยบายควบคุมบุตร เตรียมกระตุ้นให้ประชาชนมีบุตรได้อย่างเสรี หลังประเทศเข้าสู่สังคมสูงอายุ และจำนวนเพศชาย มากกว่าผู้หญิงหลายเท่า
ควบคุมบุตร

         นโยบายจำกัดจำนวนบุตรของรัฐบาลจีน คือหนึ่งในนโยบายที่ประสบความเร็จมากที่สุด แต่ก็ส่งผลกระทบในด้านต่าง ๆ เช่นกัน โดยจีนถูกนานาชาติวิพากษ์วิจารณ์และกดดันเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนมาเป็นเวลานาน แต่ประเด็นนี้อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับประเทศมหาอำนาจแห่งเอเชียเท่าไรนัก

         สิ่งที่ส่งผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมก็คืออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสวนทางกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร แม้จีนจะมีประชากรเป็นจำนวนมาก แต่แรงงานในระบบเศรษฐกิจเริ่มน้อยลง และอาจนำไปสู่การขาดแคลนได้ในอนาคต ด้วยเหตุนี้ นโยบายจำกัดจำนวนบุตร ซึ่งบังคับใช้มาเป็นเวลานานกว่า 40 ปี อาจไม่มีอีกต่อไป

         โดยจากการรายงานของเว็บไซต์บลูมเบิร์ก วันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ระบุว่า สหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปได้วิพากษ์วิจารณ์ นโยบายลูกคนเดียว ของจีน มาโดยตลอด เนื่องจากเป็นนโยบายที่เข้มงวด โหดร้าย และไร้ซึ่งมนุษยธรรม เนื่องจากจีนออกกฎข้อบังคับให้ประชาชนทำหมัน ทำแท้ง และเสียค่าปรับมหาศาล ถ้าหากมีลูกเพิ่ม จนกระทั่งในปี 2558 รัฐบาลได้ประกาศเปลี่ยนนโยบายลูกคนเดียว ไปเป็นลูก 2 คน แทน เพราะปัญหาด้านเศรษฐกิจกำลังส่อเค้าว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

ควบคุมบุตร

         นโยบายควบคุมบุตรซึ่งบังคับใช้มาเป็นเวลากว่า 4 ทศวรรษ นี้ ทำให้ จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุรวดเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ และธรรมเนียมนิยมลูกชายก็ส่งผลให้จำนวนประชากรเพศชายมีมากกว่าประชากรเพศหญิง ถึง 30 ล้านคน ดังนั้นนโยบายการมีบุตรอย่างเสรี จะเป็นการพลิกโฉมหน้าของประเทศชาติ และจะกลายเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางสังคมที่สำคัญที่สุดของโลก

         ด้วยเหตุนี้ คณะรัฐบาลจีนจึงได้ทำการหารือถึงการยกเลิกนโยบายดังกล่าว และเตรียมร่างนโยบายใหม่ ซึ่งจะบังคับใช้ทั่วประเทศ นโยบายนี้มีชื่อว่า "นโยบายมีบุตรได้อย่างอิสระ" ซึ่งอนุญาตให้ประชาชนแต่ละครอบครัวตัดสินใจเอาว่าจะมีลูกกี่คน ไม่จำเป็นต้องควบคุมเหมือนเดิมอีกต่อไป โดยคาดว่าคณะรัฐบาลจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งภายในไตรมาสที่ 4 และน่าจะเริ่มประกาศบังคับใช้ใน ปี 2562

ควบคุมบุตร

         หลังจากแนวคิดยกเลิกนโยบายควบคุมบุตรปรากฏเป็นข่าว ตัวเลขในตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้เผยให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าสนใจ เพราะหุ้นของกลุ่มบริษัทที่ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค ยา เสื้อผ้า อาหาร ไปจนถึงของเล่นเด็ก ล้วนมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดย Danone หนึ่งในผู้ครองตลาดอาหารเด็กในจีนมาตลอด 5 ปี มีมูลค่าทางตลาดเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระกระโดด ในขณะที่ Ningbo David Medical Device Co., ผู้ผลิตตู้อบทารกแรกเกิดและอุปกรณ์การทำคลอด มีมูลค่าสูงขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์ และ บริษัทผู้ผลิตนมผงอย่าง Beingmate Baby & Child Food Co. และ Bright Dairy & Food Co. ก็มีมูลค่าหุ้นสูงขึ้นอย่างน้อย 1.4 เปอร์เซ็นต์

         ด้าน เฉินเจียน รองประธานแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจ และ อดีตหัวหน้าคณะกรรมการนโยบายวางแผนครอบครัวแห่งชาติ ให้ความเห็นถึงการยกเลิกนโยบายควบคุมบุตรว่า อัตราการเกิด และจำนวนเด็กเกิดใหม่ที่ต่ำมากอย่างน่าตกใจ คือผลลัพธ์อันชัดเจนที่สะท้อนกลับไปหารัฐบาล ว่าการควบคุมบุตรอย่างเคร่งครัดได้สร้างแนวคิดที่ฝังลึกในหัวของชาวจีนรุ่นใหม่ ทำให้พวกเขาไม่อยากมีลูกอีกต่อไป

         นอกจากนี้แล้ว โครงการการปฏิรูปประเทศจีนให้เข้าสู่ยุคใหม่ ภายในปี 2578 ตามกรอบวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง นั้น ปัญหาประชากรที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อโครงการนี้อย่างแน่นอน และแม้ว่ารัฐบาลจะทำการยกเลิกการบังคับใช้นโยบายควบคุมบุตรในปีนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว และต่อให้ตัดเรื่องการคุมกำเนิดออกไป อัตราการเกิดในจีนก็ใช่ว่าจะเพิ่มขึ้นเสียทีเดียว แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จีนเล็งยกเลิกควบคุมบุตร หวั่นกระทบเศรษฐกิจ พร้อมกระตุ้นให้มีลูกแบบเสรี อัปเดตล่าสุด 22 พฤษภาคม 2561 เวลา 17:05:38 3,856 อ่าน
TOP
x close