จากปากกู้ภัยถูกนักข่าวตีเข่า ยันไม่ได้มีปัญหากันมาก่อน แต่เคยเจอหน้า ด้านแม่โต้ ลูกเป็นคนดี ขณะที่หัวหน้าคนเจ็บ ถาม งานสำคัญกว่าชีวิตคนหรือ ?
เมื่อได้อุปกรณ์ตัดถ่างเจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งนำคนเจ็บออก ซึ่งขณะนั้นมีนักข่าวกำลังยืนบันทึกภาพ แต่เนื่องจากพื้นที่ตรงนั้นค่อนข้างแคบ หากอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างดับ หรือสายไฮดรอลิกแตก จะช่วยเหลือผู้ป่วยได้ยากมาก ตนเลยต้องแทรกตัวผ่านนักข่าวคนดังกล่าว โดยลอดใต้แขนเขาไป จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ตามในคลิป
พอถูกตีเข่าตนก็หันไปถามว่า "มีอะไรวะ" พอพูดจบ นักข่าวก็สาวหมัดมาที่ตน แต่ตนเบี่ยงหลบทันทำให้ต่อยโดนหมวก ซึ่งจุดนี้ทำให้ตนสงสัยว่า สรุปแล้วคู่กรณีเป็นนักข่าวหรือนักเลงกันแน่
นายนคินทร์ บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุ นักข่าวได้ส่งคลิปตัวนี้มาให้หัวหน้าตน เหมือนจะให้หัวหน้าลงโทษตน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีปัญหาอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า เจ้าตัวก็ตอบว่า ไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกันมาก่อน แต่ยอมรับว่าเคยทำงานในสมาคมกู้ภัยร่วมกับนักข่าวคนนี้มาก่อน เจอหน้าเขาไม่ถึง 10 ครั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนตัวตนคิดว่าอาจจะทำให้ไปเบียดเขา จนทำให้เขาไม่พอใจ ซึ่งเราก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปขัดขวางการทำงานของเขา
ขณะที่แม่ของนายเอ็ม เผยว่า ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายไปตีเข่ากู้ภัยขณะที่กู้ภัยกำลังช่วยเหลือชีวิตคน เพราะว่าลูกชายเป็นคนขี้ขลาดเสียด้วยซ้ำ ยืนยันว่าลูกเป็นคนดี หาเลี้ยงครอบครัว ตอนนี้กังวลว่าคลิปที่ออกมาอาจทำให้ลูกถูกไล่ออกจากงาน ซึ่งหากต้องโดนไล่ออก ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ และนอกจากเอ็มจะทำงานเป็นนักข่าวแล้ว ยังเห็นลูกช่วยเหลือสังคมโดยการเป็นกู้ภัยด้วย
"แม่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยหาเรื่องใคร ไม่มีเรื่องกับใคร พูดเรื่องจริง" แม่ของนายเอ็ม กล่าว
ด้าน ยายตอง (นามสมมติ) แม่บ้านที่สมาคมแห่งหนึ่ง ที่รู้จักกับนายเอ็ม เปิดเผยว่า ไม่อยากจะเชื่อว่าอยู่ ๆ เอ็มจะไปตีเข่ากู้ภัย เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนมีสัมมาคารวะ อีกทั้งเอ็มก็เป็นเจ้าหน้าที่อาสาของหน่วยกู้ภัย และก็ออกไปทำงานเป็นนักข่าว
ส่วน นายณัฐพล ทองคำ เจ้าของร้านค้าส่งขายเนื้อหมู และเป็นหัวหน้างานของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ลูกน้องอาการดีขึ้นแล้ว ส่วนคลิปที่เป็นข่าวนั้นตนตั้งคำถามว่าไปเตะกู้ภัยเขาทำไม ไม่ควรจะมาทะเลาะกันเลย เพราะคนเจ็บอยู่ข้างหน้า หากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือช้า ย่อมส่งผลกระทบแน่นอน เพราะหากลูกน้องตนเสียเลือดเยอะ ก็อาจส่งผลต่อชีวิต การเข้าไปช่วยเหลือคนหากช้าเพียง 10 วินาที ก็ทำให้คนตายได้
ตนไม่เคยเห็นมาก่อน ที่นักข่าวไปขอบันทึกภาพก่อน ทำให้ตนอดคิดไม่ได้ว่า งานของคุณมันสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ มากเกินไปไหม ? แม้ข่าวจะสำคัญมากแค่ไหน แต่ชีวิตของคนต้องสำคัญกว่าเสมอ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
กลายเป็นคลิปที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์สนั่น หลังกู้ภัยออกมาแฉคลิปถูกนักข่าวตีเข่า ขณะแทรกตัวเข้าช่วยคนเจ็บ คาดไม่พอใจไปขัดขวางตอนทำข่าว (อ่านเพิ่มเติม : กู้ภัยแฉคลิปถูกนักข่าวตีเข่าใส่ ขณะช่วยคนเจ็บ สุดงง.. ผมทำผิดอะไร ??)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (12 มิถุนายน 2561) นายนคินทร์ แก้วเฉลิม หรือ คิม หัวหน้ากู้ภัยจุดหนองปรือ พุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ในวันดังกล่าวมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพุ่งชนรถกระบะ และคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางกู้ภัยจึงต้องใช้อุปกรณ์ในการตัดถ่าง เพื่อนำตัวคนบาดเจ็บออกมา ซึ่งในระหว่างที่รออุปกรณ์กู้ภัยก็จะต้องคอยช่วยเหลือเบื้องต้นให้ผู้บาดเจ็บยังคงมีสติ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เมื่อได้อุปกรณ์ตัดถ่างเจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งนำคนเจ็บออก ซึ่งขณะนั้นมีนักข่าวกำลังยืนบันทึกภาพ แต่เนื่องจากพื้นที่ตรงนั้นค่อนข้างแคบ หากอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างดับ หรือสายไฮดรอลิกแตก จะช่วยเหลือผู้ป่วยได้ยากมาก ตนเลยต้องแทรกตัวผ่านนักข่าวคนดังกล่าว โดยลอดใต้แขนเขาไป จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ตามในคลิป
พอถูกตีเข่าตนก็หันไปถามว่า "มีอะไรวะ" พอพูดจบ นักข่าวก็สาวหมัดมาที่ตน แต่ตนเบี่ยงหลบทันทำให้ต่อยโดนหมวก ซึ่งจุดนี้ทำให้ตนสงสัยว่า สรุปแล้วคู่กรณีเป็นนักข่าวหรือนักเลงกันแน่
นายนคินทร์ บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุ นักข่าวได้ส่งคลิปตัวนี้มาให้หัวหน้าตน เหมือนจะให้หัวหน้าลงโทษตน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีปัญหาอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า เจ้าตัวก็ตอบว่า ไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกันมาก่อน แต่ยอมรับว่าเคยทำงานในสมาคมกู้ภัยร่วมกับนักข่าวคนนี้มาก่อน เจอหน้าเขาไม่ถึง 10 ครั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนตัวตนคิดว่าอาจจะทำให้ไปเบียดเขา จนทำให้เขาไม่พอใจ ซึ่งเราก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปขัดขวางการทำงานของเขา
แต่การกระทำของเขา ตนสงสัยว่าการเข้าไปถ่ายใกล้ขนาดนั้น เป็นหน้าที่ของเขาหรือ ?
ด้านนายเอ็ม (นามสมมติ) นักข่าวคู่กรณี ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพียงว่า ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ แต่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ อยู่ ส่วนจะแจ้งความดำเนินคดีต่ออีกฝ่ายหรือไม่นั้น เจ้าตัวบอกเพียงว่ายังไม่สะดวกชี้แจง
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะที่แม่ของนายเอ็ม เผยว่า ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายไปตีเข่ากู้ภัยขณะที่กู้ภัยกำลังช่วยเหลือชีวิตคน เพราะว่าลูกชายเป็นคนขี้ขลาดเสียด้วยซ้ำ ยืนยันว่าลูกเป็นคนดี หาเลี้ยงครอบครัว ตอนนี้กังวลว่าคลิปที่ออกมาอาจทำให้ลูกถูกไล่ออกจากงาน ซึ่งหากต้องโดนไล่ออก ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ และนอกจากเอ็มจะทำงานเป็นนักข่าวแล้ว ยังเห็นลูกช่วยเหลือสังคมโดยการเป็นกู้ภัยด้วย
"แม่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยหาเรื่องใคร ไม่มีเรื่องกับใคร พูดเรื่องจริง" แม่ของนายเอ็ม กล่าว
ด้าน ยายตอง (นามสมมติ) แม่บ้านที่สมาคมแห่งหนึ่ง ที่รู้จักกับนายเอ็ม เปิดเผยว่า ไม่อยากจะเชื่อว่าอยู่ ๆ เอ็มจะไปตีเข่ากู้ภัย เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนมีสัมมาคารวะ อีกทั้งเอ็มก็เป็นเจ้าหน้าที่อาสาของหน่วยกู้ภัย และก็ออกไปทำงานเป็นนักข่าว
ส่วน นายณัฐพล ทองคำ เจ้าของร้านค้าส่งขายเนื้อหมู และเป็นหัวหน้างานของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ลูกน้องอาการดีขึ้นแล้ว ส่วนคลิปที่เป็นข่าวนั้นตนตั้งคำถามว่าไปเตะกู้ภัยเขาทำไม ไม่ควรจะมาทะเลาะกันเลย เพราะคนเจ็บอยู่ข้างหน้า หากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือช้า ย่อมส่งผลกระทบแน่นอน เพราะหากลูกน้องตนเสียเลือดเยอะ ก็อาจส่งผลต่อชีวิต การเข้าไปช่วยเหลือคนหากช้าเพียง 10 วินาที ก็ทำให้คนตายได้
ตนไม่เคยเห็นมาก่อน ที่นักข่าวไปขอบันทึกภาพก่อน ทำให้ตนอดคิดไม่ได้ว่า งานของคุณมันสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ มากเกินไปไหม ? แม้ข่าวจะสำคัญมากแค่ไหน แต่ชีวิตของคนต้องสำคัญกว่าเสมอ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก