พิสูจน์ตัวตนเหยื่อเรือล่มภูเก็ตหมดแล้ว 46 ศพ เว้นอีกรายที่ติดในเรือ ด้านบริษัทประกัน เร่งจ่ายเงินเยียวยา พบจ่ายแล้ว 29 ราย รวม 31.9 ล้าน
สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบภัยนั้นได้จ่ายเงินเยียวยาเรียบร้อยแล้ว 29 ราย ประกอบด้วย ค่าสินไหมทดแทนโดยบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจ่ายให้กับญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 29 ราย รายละ 1 ล้านบาท เป็นเงิน 29 ล้านบาท และบริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 29 ราย รายละ 1 แสนบาท เป็นเงิน 2.9 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 31.9 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างการรอเอกสารเพิ่มเติม หากได้เอกสารเพิ่มเติมแล้วจะสามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ทันที โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง
![เรือล่มภูเก็ต]( "เรือล่มภูเก็ต")
วันที่ 15 กรกฎาคม 2561 ที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต มีการแถลงข่าวความคืบหน้าเหตุเรือล่มจังหวัดภูเก็ต โดย นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จำนวนศพผู้เสียชีวิตที่ได้พบศพและได้นำขึ้นมาพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น 46 คน และอีก 1 คน ติดอยู่ที่ใต้เรือฟีนิกซ์ ซึ่งได้มีการปฏิบัติงานกู้ร่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินการบูรณาการร่วมกันทั้งฝ่ายไทย ฝ่ายจีนอย่างใกล้ชิด ส่วนในด้านการจัดการศพที่พบก่อนหน้านี้ 46 ราย ขณะนี้ได้ฌาปนกิจเรียบร้อยหมดแล้ว 39 ราย และนำส่งกลับไปประเทศจีน 7 ราย ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว สำหรับจำนวนผู้บาดเจ็บที่รักษาในโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ขณะนี้มี 1 ราย ซึ่งคาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ในเร็ว ๆ นี้
สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบภัยนั้นได้จ่ายเงินเยียวยาเรียบร้อยแล้ว 29 ราย ประกอบด้วย ค่าสินไหมทดแทนโดยบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจ่ายให้กับญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 29 ราย รายละ 1 ล้านบาท เป็นเงิน 29 ล้านบาท และบริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 29 ราย รายละ 1 แสนบาท เป็นเงิน 2.9 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 31.9 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างการรอเอกสารเพิ่มเติม หากได้เอกสารเพิ่มเติมแล้วจะสามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ทันที โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน พล.ร.ท. สมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า การปฏิบัติการกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากใต้ท้องเรือฟีนิกซ์ เมื่อวานนี้ (14 กรกฎาคม) ได้นำทีมงานทั้งหมดทั้งกองทัพเรือของไทยและฝ่ายจีน ซึ่งได้ดำเนินการตั้งแต่เช้าจนถึงทุ่มกว่า ซึ่งพบว่า การดำน้ำมีข้อจำกัด กำลังพลนักประดาน้ำที่มีได้ลงดำน้ำทั้งหมด แต่ในสภาพแวดล้อมของทราย บริเวณใกล้ร่างผู้เสียชีวิต ที่มีความอัดแน่น ทำให้ยากต่อการกู้ร่าง แต่ยังมีความเชื่อว่าน่าจะดำเนินการสำเร็จ โดยจะดำเนินการอย่างเต็มที่
สำหรับการคาดคะเนการกู้ร่าง ผู้เสียชีวิตรายที่ 47 คาดว่าวันนี้ (15 กรกฎาคม) มีความเป็นไปได้สูง ซึ่งจากที่ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้แจ้งว่าพื้นที่แคบ และร่างผู้เสียชีวิตค่อนข้างแข็ง หากวันนี้สามารถกู้ได้ จะขึ้นที่ท่าเรือน้ำลึก ภูเก็ต ซึ่งทางคณะ จังหวัดภูเก็ต ทัพเรือภาค 3 และเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมกงสุลใหญ่ จะไปรับศพ ณ ท่าเรือน้ำลึก มีพิธีไว้อาลัย และขอบคุณคณะทำงานทุกภาคส่วนซึ่งขณะนี้รอการประสานติดต่อมา หลังจากนั้นจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อดำเนินการพิสูจน์ยืนยันอัตลักษณ์ตัวบุคคล ซึ่งจะเป็นเพียงรายเดียวที่เหลืออยู่ที่ยังไม่ได้พิสูจน์อัตลักษณ์ นอกนั้นดำเนินการเสร็จหมดสิ้นทุกขั้นตอน เหลือเพียงการเยียวยา ทั้งนี้จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะรับเรื่อง รับแจ้งประสานจากญาติผู้เสียชีวิตที่จะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการสอบสวนของพนักงานสอบสวน และในส่วนของจังหวัดภูเก็ตยังคงเปิดศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อาคารคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์ด้วย
พล.ต.ต. ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการดำเนินงานในส่วนของความคืบหน้าคดีว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมตัว นางสาววรลักษณ์ อายุ 26 ปี กรรมการผู้จัดการเรือฟีนิกซ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต โดยแจ้งข้อหา กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายโดยสาหัสและเสียชีวิต เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ขณะที่ตอนนี้ได้ควบคุมตัวมาที่ สภ.ฉลอง แล้ว และจะนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดภูเก็ต ในวันพรุ่งนี้ (16 กรกฎาคม)
ส่วนช่างเครื่องเรือฟีนิกซ์ ได้มีการจับกุมไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้จะเร่งสอบสวนเพื่อหาความเกี่ยวโยงถึงบุคคลอื่นที่กระทำผิดร่วมด้วย โดยต้องมีพยานหลักฐานมากกว่านี้ ซึ่งหากการรวบรวมพยานหลักฐานมีการพาดพิงไปถึงใครจะดำเนินการคดีทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น
ด้าน นายสาคร ปู่ดำ ผู้แทนสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวถึงแผนการกูเรือฟีนิกซ์ ว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้มาประชุมที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ในส่วนหนึ่งที่จะดำเนินการคือ ในเรื่องของเครื่องมือจะใช้เวลา 15-20 วัน ลักษณะการกู้เรือจะมีการใช้เชือกเส้นใหญ่ จำนวน 4-5 เส้น ทั้งนี้จะต้องให้ผู้ที่มีประสบการณ์ผู้ชำนาญการการกู้เรือดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลา 15-20 วัน สำหรับการแถลงข่าวในแต่ละวันได้มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน โดยได้รับการสนับสนุนล่ามจากกระทรวงการต่างประเทศและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
พล.ต.ต. ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการดำเนินงานในส่วนของความคืบหน้าคดีว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมตัว นางสาววรลักษณ์ อายุ 26 ปี กรรมการผู้จัดการเรือฟีนิกซ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต โดยแจ้งข้อหา กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายโดยสาหัสและเสียชีวิต เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ขณะที่ตอนนี้ได้ควบคุมตัวมาที่ สภ.ฉลอง แล้ว และจะนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดภูเก็ต ในวันพรุ่งนี้ (16 กรกฎาคม)
ส่วนช่างเครื่องเรือฟีนิกซ์ ได้มีการจับกุมไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้จะเร่งสอบสวนเพื่อหาความเกี่ยวโยงถึงบุคคลอื่นที่กระทำผิดร่วมด้วย โดยต้องมีพยานหลักฐานมากกว่านี้ ซึ่งหากการรวบรวมพยานหลักฐานมีการพาดพิงไปถึงใครจะดำเนินการคดีทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น
ด้าน นายสาคร ปู่ดำ ผู้แทนสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวถึงแผนการกูเรือฟีนิกซ์ ว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้มาประชุมที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ในส่วนหนึ่งที่จะดำเนินการคือ ในเรื่องของเครื่องมือจะใช้เวลา 15-20 วัน ลักษณะการกู้เรือจะมีการใช้เชือกเส้นใหญ่ จำนวน 4-5 เส้น ทั้งนี้จะต้องให้ผู้ที่มีประสบการณ์ผู้ชำนาญการการกู้เรือดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลา 15-20 วัน สำหรับการแถลงข่าวในแต่ละวันได้มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน โดยได้รับการสนับสนุนล่ามจากกระทรวงการต่างประเทศและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
