หนุ่มฟอร์จูนเนอร์ ร้องนายกฯ คู่กรณีไม่เยียวยา ต่อจาก 4 ล้าน เหลือ 5 แสน

         หนุ่มฟอร์จูนเนอร์ ถูกรถพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ทับแบน เข้าร้องสำนักนายกฯ คู่กรณีไม่เยียวยา ต่อรองจาก 4 ล้าน เหลือ 1.3 ล้าน แต่ไป ๆ มา ๆ จะจ่ายแค่ 5 แสน หักจากค่าประกัน


ทั้งสองคนมีทายาทไหม ?

         คุณลมุล : มีลูก 2 คนค่ะ ป.3 กับ ม.3 เป็นผู้ชายทั้งคู่


คุณทำงานคนเดียวไหม ?

         คุณวุฒิ : ผมทำงานอยู่ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ภรรยาก็ทำงานบริษัทเอกชน เป็นหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล

         คุณวุฒิ : ต้องจำได้ครับ เพราะมันเป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิต วันนั้นผมไปสัมมนาสหกรณ์ของการบินไทย ผมออกประมาณ 9 โมงเช้า ถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิ 10 โมงครึ่ง ผมก็ไปส่งพี่อีกคนหนึ่งแล้วก็เดินทางกลับบ้านต่อ ประมาณ 10-15 นาที ไปถึงที่เกิดเหตุก็ประมาณ 12.00 น. ผมก็ขับของผมมา แต่ผมเห็นรถตู้คอนเทนเนอร์วิ่งมาด้วยความเร็วแล้วหัก รถจะชนผมแล้ว ก็ตกใจ ซึ่งเห็นรถเอียงมาทางซ้าย ผมก็ก้มลงเลย ได้ยินเสียงตุ้บ ผมก็อยู่ท่านั้นตลอด ผมเห็นตั้งแต่เขาสาดมาแล้ว ด้วยความเร็ว พอคว่ำพ่วง 18 ล้อด้านหลังของเขาก็ทับรถผมทันที ผมเอี้ยวตัวหลบพอดี ถ้าไม่เอี้ยวก็คงตายคาที่

ในระหว่างที่พ่วง 18 ล้อทับคุณแล้วคุณอยู่ในรถ ก่อนที่จะมีคนมาช่วย คุณคิดอะไร ?

         คุณวุฒิ : คำแรกที่ได้ยิน คือ ตายแล้วครับ คนข้างนอกพูด เขาบอกตายแล้ว ตายแล้ว ผมก็นิ่งไปประมาณ 1 นาที แล้วก็บีบแตร 3 ครั้ง แล้วตะโกนบอกว่าช่วยผมด้วยครับ พอตะโกนออกไปรู้สึกเลยว่าเจ็บหน้าอกด้านซ้าย มีคนวิ่งมาแล้วบอกว่ายังไม่ตาย ๆ เขาถามกี่คน ผมบอกมาคนเดียวครับ ช่วยผมด้วยครับ ที่เขาพูดคือเขาไม่เห็นตัวผมเลย รถมันแบนไปหมดเลย

         คุณลมุล : มองไม่เห็นค่ะ เพราะพี่ที่เห็นเหตุการณ์เขานึกว่าไม่มีอะไรในรถ มองไม่เห็นรถเลย

         คุณวุฒิ : หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงว่าใจเย็นนะ เดี๋ยวหาคนมาช่วย พอสักพักผมก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมา แต่ไม่เห็นใครหรอก สักพักหนึ่ง ผมก็บอกว่าพี่ไปตามแฟนผมหน่อยครับอยู่ที่หมู่บ้านนี้ ประมาณ 20 นาที แฟนผมก็มา

พอเห็นสภาพแล้วตอนนั้นรู้สึกยังไง ?

         คุณลมุล : ตอนแรกหนูถามว่ารถแฟนหนูกระเด็นไปทางไหน เพราะไม่คิดว่าจะอยู่ข้างใต้ ตอนนั้นคิดว่าต้องทำใจแล้ว เพราะเป็นตายเท่ากัน ดูจากรถ 18 ล้อที่มันเอียง ตอนแรกหนูพยายามหาแฟนหนูก่อน แต่ไม่เจอ น้าที่ไปตามหนูเขาบอกว่าใจเย็น ๆ และก้มลงให้ต่ำที่สุด แฟนหนูอยู่ตรงนั้น พอเห็นตอนนั้นตัวหนูหนักไปหมดเลย ทรุดไปเลย แต่ที่หนูดีใจคือหนูได้ยินเสียงแตร แฟนหนูบีบแตร พอหนูได้ยินเสียงแตรหนูวิ่งเข้าไปที่ซากรถ แล้วตะโกนบอกว่าพ่อใจเย็น ๆ นะ อดทน หนูมีความหวังแล้ว

         คุณวุฒิ : ผมว่าสตินะ และมีตะกรุดครับ ซึ่งได้มาจากพ่อตาในวันแต่งงาน เขาบอกไม่มีอะไรให้ก็เลยให้ตะกรุด วัดบ้านเมย ไปไหนมาไหนก็ติดตัวไปตลอด พร้อมเหรียญ ร.5 นอกนั้นก็มีเหรียญพระเกจิหลายองค์ อย่าง หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อคูณ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง

         คุณลมุล : ระหว่างที่รอการช่วยเหลือ คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เขาก็บอกเหมือนกันว่าต้องทำใจนะ เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

         คุณลมุล : 95 เป็นเลขท้าย 2 ตัว งวดนั้นออก และมี 17 เป็นเสาไฟฟ้าต้นที่ 17 ก็เลยลองดู ซื้อลอตเตอรี่ก็ถูก หลังจากงวดนั้น 31 ก็มีอีกเป็นเลขทะเบียนบ้าน ถูกไม่เยอะนะ เพราะเป็นคนซื้อไม่เยอะ ล่าสุดก็ 27 ซึ่งเป็นเลขวันเกิดเหตุ ก็ถูกอีก ในความโชคร้ายก็มีโชคดี

แต่วันนี้คุณไปร้องนายกรัฐมนตรี คุณไปร้องเรื่องอะไร ?

         คุณวุฒิ : ร้องเรื่องคดีครับ ในความรู้สึกผมนะ ช่วงที่ผมอยู่ ทางตำรวจส่งฟ้องไปเรียบร้อย คดีอาญา หลังจากนั้น 13 มิถุนายน ผมออกจากโรงพยาบาล ตำรวจเจ้าของคดีเขาบอกว่าคดีอาญาผมส่งฟ้องไปแล้วนะ เหลือแต่คดีแพ่ง เขาบอกถ้าจะฟ้อง ฟ้องเอาเองแล้วกัน ไปไกล่เกลี่ยคู่กรณีแล้วกัน

         คุณลมุล : ครั้งแรกเราเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทรถพ่วง 18 ล้อ เป็นเงิน 4 ล้าน 7 แสนบาท แยกเป็น 3 หัวข้อ 1. เรื่องของรถให้ชดใช้เท่ากับมูลค่าเดิมคือ 1 ล้าน 4 แสนบาท 2. สูญเสียรายได้จากอุบัติเหตุ ค่าโอทีเท่ากับเงินเดือน เดือนละ 4 หมื่น 5 พันบาท ทั้งหมด 12 เดือน เป็นเงิน 5 แสน 4 หมื่นบาท ค่าผู้ตรวจสอบสหกรณ์การบินอีก 6 หมื่น ค่าเสียโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง 1 หมื่นบาท คูณ 12 เดือน สุดท้ายค่าเจ็บป่วย ค่าทุกข์ทรมาน ค่ารักษาพยาบาลในอนาคต และค่ารักษาที่ผ่านมาอีก 2 ล้านบาท ก็เป็นเงินทั้งหมด แต่ไม่ได้ ทางคู่กรณีขอไกล่เกลี่ยอีกเหลือ 1 ล้าน 3 แสน 2 หมื่นบาท ตัวเลขนี้เขาต่อราคาลงมาเรื่อย ๆ เหมือนไปซื้อผัก ซื้อปลา มองชีวิตเราเป็นแบบนั้นเลย ให้น้อยกว่าราคารถอีก

เบื้องต้นล่าสุดเข้าไปคุยที่ สน.จรเข้น้อย เขามาทอนเงิน 1.3 ล้านบาท ออก เช่น ค่าประกัน เขาจ่ายให้คุณแล้ว 7 แสน ลบออก ค่าสินไหมต้องลบออกอีกนะ สุดท้ายเหลือ 5 แสน 2 หมื่นบาท อยากได้ก็ไปฟ้องเอา มันก็ยังไม่จบ ? 

         คุณวุฒิ : ผมพูดตรง ๆ เขามีอารมณ์ ผมก็มีอารมณ์ ผมบอกว่างั้นผมไปร้องหน่วยงานรัฐให้มาช่วยแล้วกัน

สรุปเหตุการณ์นี้เกิดจากความมักง่ายของคนขับใช่ไหม เขาดื่มมาหรือไง ?

         คุณลมุล : คือจากที่คุณณรงค์เขามาขอโทษหนูในวันนั้นมีกลิ่นแอลกอฮอล์ค่ะ และวันนั้นที่อยู่ที่ สน. เขาก็มาขอโทษ ผมนะดื่มไปก่อนที่จะทำงาน ผมขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น เหมือนเขาหลับในนะคะ

         คุณวุฒิ : ผมให้โอกาสแล้วนะ จาก 4 ล้าน 7 แสนบาท เป็น 1 ล้าน 3 แสนบาท แล้วเขามาหักจ่าย 5 แสนกว่าบาท มันไม่ใช่

         คุณลมุล : สุดท้ายก็อยากให้คู่กรณีมาดูแลครอบครัวหนูบ้าง เพราะเดือดร้อนมาก อยากให้ในส่วนของ สน.จรเข้น้อย ติดตามคดีของหนูให้โปร่งใส