ผอ.สถาบันสิทธิมนุษยชนฯ ค้านโทษประหารชีวิต เหตุไม่พบลดอาชญากรรม ซ้ำตัดโอกาสคนผิดปรับปรุงตัว
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ส่วนกรณีของน้องสโนว์ ดร.เอกพันธุ์ ระบุว่า จากคำพิพากษาของศาลให้ประหารชีวิตนั้น ก็ต้องทำตามคำสั่ง เพราะตอนนี้ประเทศไทยยังมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต แต่ตนเพียงแค่มีกรอบแนวคิดว่าไม่อยากให้มีการประหารเกิดขึ้นเท่านั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
จากกรณีที่ศาลอุทธรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คำสั่งประหารชีวิต นายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ผู้ต้องหาฆ่า-ข่มขืน น้องสโนว์ นักเรียนหญิงชั้น ม.6 อายุ 18 ปี เมื่อปลายปี 2558 นั้น (อ่านข่าว : ศาลอุทธรณ์ยืนประหารชีวิต อดีตผู้ใหญ่บ้าน ฆ่าข่มขืน น้องสโนว์ นักเรียนสาว ม.6)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 17 กรกฎาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ได้พูดคุยกับ นางลำไย แม่น้องสโนว์ เปิดเผยว่า รู้สึกว่าครอบครัวได้รับความเป็นธรรมแล้ว ซึ่งตนจะสวมชุดขาวไว้ทุกข์ตลอดชีวิตให้กับลูกสาว โดยไม่อยากให้ใครมาเผชิญชะตากรรมแบบครอบครัวของตน อยากให้คดีนี้เป็นคดีสุดท้าย
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ด้าน ดร.เอกพันธุ์ ปิณฑวณิช ผู้อำนวยการสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับโทษประหารชีวิต โดยผลการศึกษาพบว่าโทษประหารชีวิตไม่ได้ลดอาชญากรรม ดังนั้นมีวิธีการอื่นที่จะทำให้ผู้ที่ก่ออาชญากรรมได้รับบทลงโทษ ได้รับการแก้ไขพฤติกรรมตัวเองในสังคม ได้มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวเอง
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ดร.เอกพันธุ์ ระบุว่า กระบวนการยุติธรรมมีขั้นตอนตั้งแต่การป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรม ซึ่งการประหารชีวิตถือเป็นวิธีสุดท้าย ดังนั้นถ้าจะพูดถึงโทษประหารก็ต้องพูดถึงกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด เพราะหากมีขั้นตอนใดผิดพลาด ก็มีโอกาสทำให้ผู้ถูกกล่าวหาถูกประหารชีวิตทั้งที่ไม่มีความผิด ดังนั้นจึงต้องมาจัดระเบียบสังคมว่าจะยอมรับมากน้อยเพียงใด ซึ่งต้องพูดคุยกันด้วยหลักเหตุผล
ส่วนกรณีของน้องสโนว์ ดร.เอกพันธุ์ ระบุว่า จากคำพิพากษาของศาลให้ประหารชีวิตนั้น ก็ต้องทำตามคำสั่ง เพราะตอนนี้ประเทศไทยยังมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต แต่ตนเพียงแค่มีกรอบแนวคิดว่าไม่อยากให้มีการประหารเกิดขึ้นเท่านั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก