หนุ่มลาวเล่านาทีชีวิต น้ำแรงหนีไม่ทัน ลูกน้อย 2 คน ถูกน้ำพัดหายต่อหน้าต่อตา

 

          สถานการณ์เขื่อนแตกในพื้นที่เมืองสะนามไซ แขวงอัตตะปือ สปป.ลาว เป็นหนึ่งในภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และในขณะนี้มวลน้ำได้เคลื่อนตัวไปถึงเมืองมะหาไซ แขวงคำม่วน และไปถึงประเทศกัมพูชาแล้ว ผู้คนหลายพันคนต้องอพยพหนีน้ำอย่างเร่งด่วน 

 

          สำหรับที่แขวงอัตตะปือ บ้านเรือนประชาชนหลายร้อยหลังคาเรือนจมอยู่ในระดับน้ำที่ท่วมสูงเกือบมิดหลังคา การเตือนภัยที่มาช้า มีเวลาเตรียมการเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านมากมาย ไม่สามารถอพยพหนีน้ำที่มาอย่างรวดเร็วได้ กว่า 100 ชีวิตสูญหายไปกับสายน้ำ และในจำนวนนั้นคือครอบครัวของชายหนุ่มคนนี้ 

 

          โดยเมื่อวันที่ 26 กรกฎา 2561 เฟซบุ๊ก Ola Phum Masong ได้โพสต์คลิปวิดีโอระบุว่า "ครอบครัวที่สูญเสียลูกไป ทั้ง 2 คน" ภายในคลิป ชายหนุ่มคนหนึ่งผู้มีสีหน้าและแววตาที่เจ็บปวด ได้บอกเล่าถึงเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ขณะที่น้ำมาถึงบ้านของเขา ทุกอย่างสยดสยองน่ากลัวไปหมด ทั้งกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ต้นไม้ท่อนไม้ต่าง ๆ ที่พัดมากับน้ำ และในช่วงเวลาเลวร้ายนั้น เขาต้องเสียลูกรักไปทั้ง 2 คน 

 

          ภายในคลิป ผู้โพสต์สอบถามชายหนุ่มคนนี้ว่าเป็นคนหมู่บ้านไหน และเหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เขาเล่าว่า ตนเป็นคนบ้านหินลาด ในชีวิตเกิดมา ไม่เคยพบเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ตัวเขาเองเคยเจอน้ำท่วมมาก็มาก แต่มันเป็นน้ำท่วมหรือน้ำหลากธรรมดาตามฤดูกาล ซึ่งสักพักก็ลดไป ไม่ใช่ภัยพิบัติเลวร้ายขนาดนี้ 

          เมื่อถามว่าตอนนั้นเขากับครอบครัวทำอย่างไร หนุ่มคนนี้ตอบว่า ตอนนั้นเขา ภรรยา และลูก ๆ 2 คน กำลังอยู่ในบ้าน ลูกคนโตอายุ 3 ขวบ คนเล็กอายุ 1 ขวบ 8 เดือน กำลังนอนหลับกันอยู่ เมื่อเห็นน้ำมา เขาและภรรยารู้แล้วว่าท่าไม่ดีแล้ว จึงพากันรีบอุ้มลูกออกจากบ้าน เพื่อจะไปบ้านยาย แต่ระดับน้ำมันเพิ่มขึ้นเร็วมาก 

 

          ชายหนุ่มคนนี้และภรรยาอุ้มลูกกันคนละคน แต่ทันทีที่ออกจากบ้าน น้ำก็พัดมาจนไหลไปตามน้ำ จมน้ำกันไปคนละทิศคนละทาง ร่างไปกระแทกต้นไม้หลายต้น พยายามคว้าเอาไว้ให้ได้ ผ่านไป 3-4 ต้น ถึงจะเกาะได้ ตอนนั้นมีเหลือแค่ตัวเองกับภรรยา มองไปรอบ ๆ ไม่เห็นลูกทั้ง 2 คน แล้ว 

 

          "ตอนที่น้ำมา วินาทีแรกอยู่แค่เอว วินาทีต่อมาสูงมาถึงคอแล้ว พวกเราทำอะไรไม่ทัน พอกระโดดออกจากบ้าน บ้านก็ถูกน้ำซัดพังไปหมดแล้ว เสียงดังโครมคราม ขอนไม้ท่อนไม้ก็ไหลมาด้วย ผมกำลังอุ้มน้องอยู่กับอก น้ำมันมาแรงมากจนถูกพัดลอยไป ผมจมน้ำสำลักน้ำ พลัดพรากจากไปกับลูก คว้าต้นไม้เอาไว้ได้ต้นหนึ่ง ลืมตาขึ้นมาเห็นภรรยาหน้าซีดเกาะต้นไม้อยู่ข้าง ๆ พอมองหาลูก ๆก็หายไปแล้ว มองไม่เห็นแล้ว ไปหมดแล้ว" 

 

          ก่อนเกิดเหตุเขาละภรรยาพยายามเต็มที่แล้วในการเก็บข้าวของ แห อุปกรณ์ต่าง ๆ แต่กระแสน้ำมาเร็วอย่างคาดไม่ถึง ตอนนี้ไม่ใช่แค่ข้าวของที่สูญหายไป บ้านของเขาทั้งหลังก็หายไปหมดแล้ว และลูก ๆ ที่รักสุดหัวใจทั้ง 2 คน ก็ถูกกระแสน้ำพัดหายไปแล้ว เป็นความสูญเสียที่เจ็บปวดและเลวร้าย ที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูดใด ๆ เลย 

 

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ola Phum Masong