มหาเศรษฐีจีน วัย 52 ปี ใช้เวลาว่างออกมาเก็บขยะข้างถนน เพื่อให้เมืองสะอาด และทำมา 3 ปีแล้ว จากเคยโดนชาวบ้านด่า กลายเป็นได้รับการสนับสนุน เผยจะทำต่อไป และอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น

ภาพจาก twoeggz.com
ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาแถว ๆ ถนนชิงฉิง ในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง
ทางตอนกลางของประเทศจีน มักจะพบเห็นชายวัยกลางคนรูปร่างผอมแต่ทะมัดทะแมง
สวมเสื้อยืดสีส้ม เดินเก็บขยะอย่างขะมักเขม้น ตั้งแต่บริเวณรั้วริมถนน
ทางเท้า โคนต้นไม้ ไปจนถึงหน้าร้านค้าต่าง ๆ
เขาจะคอยเดินสอดส่องอย่างละเอียด ถ้าเห็นขยะตรงไหนก็จะรีบเข้าไปจัดการทันที
และจากไปเมื่อมั่นใจว่าถนนสะอาดเรียบร้อยดีแล้ว
ชาวบ้านร้านตลาดละแวกนั้นพบเห็นเขาอยู่เป็นประจำทุกวันจนเป็นภาพชินตา หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเขาคงเป็นเจ้าหน้าที่หรือพนักงานที่ได้รับจ้างมาดูแลความสะอาด จึงไม่ได้มีใครสนใจเขาเป็นพิเศษ แต่แท้จริงแล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด
ถึงแม้ว่าบางครั้งผู้คนจะมองเขาด้วยสายตาแปลก
ๆ หรือรังเกียจ แต่ฉงหรงก็ไม่สนใจ
เพราะเขาต้องการให้เมืองนี้เป็นเมืองที่สะอาด สวยงาม
น่าอยู่และน่ามองมากขึ้น

ภาพจาก twoeggz.com
เรื่องราวของอดีตอาจารย์ท่านนี้ได้สร้างแรงบันดาลให้แก่ฉงหรงเป็นอย่างมาก มันทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากทำสิ่งดี ๆ ให้แก่เมืองอันเป็นบ้านเกิดของเขาบ้าง และเมื่อเขาเดินทางกลับมาถึงบ้าน เขาก็เริ่มออกเดินเก็บขยะทันที ทำไปเรื่อย ๆ ทุกวัน เป็นเวลากว่า 3 ปี แล้ว
ตอนแรก ๆ ที่ฉงหรงเริ่มต้นออกมาเก็บขยะ เหล่าชาวบ้านร้านตลาดแถวนั้นที่รู้จักเขา ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดี ๆ เศรษฐีเงินล้านผู้มีบ้านใหญ่โตหรูหราและร่ำรวยมหาศาลอย่างเขา ถึงได้ออกมาเที่ยวเดินด้อม ๆ มอง ๆ หาขยะอยู่ริมถนน หลายคนกล่าวหาว่าฉงหรงทำแบบนี้เพราะต้องการเรียกร้องความสนใจ หรือไม่ก็สร้างภาพให้ชาวบ้านเห็นว่าตัวเองเป็นคนดี
แม้แต่ครอบครัวของฉงหรงก็ไม่เข้าใจว่าเขาทำแบบนั้นไปทำไม
ภรรยากับลูก ๆ
ต่างก็อับอายขายหน้าที่ต้องมาเห็นหัวหน้าครอบครัวออกไปเก็บขยะงก ๆ
จนตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน และไม่ยอมออกไปไหนมาไหนกับเขาอีก

ภาพจาก twoeggz.com
ครอบครัวของฉงหรงก็ยอมรับและภูมิใจในตัวเขา ภรรยาของเขาก็ลงมาช่วยเหลือสามีอีกแรงอย่างจริงจังอีกด้วย ปัจจุบันเธอเดินหน้าทำโครงการรักษาความสะอาด ต้านการทิ้งขยะไม่เป็นที่ และถ้าเธอเห็นใครโยนขยะทิ้งเรี่ยราดบนถนน เธอจะเปิดฉากต่อว่าตรงนั้นให้อับอาย
ในการออกไปเก็บขยะแต่ละครั้ง
ฉงหรงจะสวมเสื้อยืดสีส้มที่สกรีนข้อความเตือนใจผู้คนให้รักษาความสะอาด
เขากล่าวว่า ไม่ว่าคนเราจะอยู่ในฐานะทางสังคมแบบไหน มีการศึกษาสูงเท่าใด
และอยู่ในวัฒนธรรมใด การทิ้งขยะเรี่ยราดหรือการรักษาความสะอาด
ทิ้งขยะให้ถูกที่ มันไม่ได้เป็นตัวชี้วัดภูมิหลังเหล่านั้น
มันเป็นพฤติกรรมของคนที่เกิดขึ้นได้และเปลี่ยนแปลงได้
เขาอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังในระยะยาว ไม่ใช่แค่ระยะสั้น
และอยากเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลาย ๆ คนลุกขึ้นมารักษาเมืองมากขึ้น

ภาพจาก sohu.com
"แค่คนเดียวคอยจัดการ
มันไม่พอหรอกครับ มันต้องจริงจัง คนจีนน่ะกลัวเสียหน้า พวกเขาหน้าบาง
พวกเขาไม่สนใจเรื่องค่าปรับหรอกว่าเท่าไหร่
แต่จะอับอายขายหน้าที่โดนปรับมากกว่า
ดังนั้นประเทศจีนจำเป็นต้องออกกฎการรักษาความสะอาดให้เข้มงวดมากกว่านี้
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คนมักง่ายทิ้งขยะไม่เป็นที่" ฉงหรง กล่าว

ภาพจาก sohu.com

ภาพจาก sohu.com