แม่ฟอสเล่านาทีลูกชายมาให้เห็นก่อนวันเกิด คล้ายมาลาและไม่อยากให้เป็นห่วง เผยพี่ชายสปายป่วยทางจิต เพราะเวรกรรมที่ครอบครัวทำไว้
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 25 สิงหาคม 2561 เว็บไซต์อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อเข้าพูดคุยกับ นางจอมศรี ชมภูพื้น แม่ของฟอส ถึงกรณีดังกล่าว โดยนางจอมศรี เผยว่า ฟอสและสปายสนิทกันมาตั้งแต่เด็กจนโต ครอบครัวก็เป็นญาติกัน สายเลือดเดียวกัน ตนไม่ทราบว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันหรือไม่ แต่เท่าที่รู้ เด็กทั้งสองก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอด ไปไหนก็นอนแยกกัน และฟอสเองก็ไม่เคยพูดให้ฟังว่ามีความสัมพันธ์แบบนั้นกับสปาย
นางจอมศรี กล่าวอีกว่า ในวันก่อนวันคล้ายวันเกิดของฟอส ตนเห็นฟอสใส่ชุดขาวมายืนยิ้มให้ แต่ไม่ได้พูดอะไร คล้ายกับว่ามาบอกลาแม่ ไม่อยากให้แม่เป็นห่วงและทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น ซึ่งหลังจากที่จับเสี่ยอ้วนได้แล้ว ตนก็ไม่ได้เจอฟอสอีกเลย
สำหรับกรณีที่ตนเคยบอกว่าครอบครัวของตนและสปาย หลังจากนี้ก็ต่างคนต่างอยู่นั้น นางจอมศรี ชี้แจงว่า ตนไม่ได้หมายความว่าจะตัดญาติขาดมิตรใด ๆ เพราะอย่างไรครอบครัวก็ยังเป็นญาติกัน เพียงแค่หลังจากนี้ ต่างฝ่ายก็ต้องเดินหน้าทำมาหากินต่อไป ส่วนตนเมื่อไม่มีฟอสแล้ว ก็คงต้องหางานทำ เพื่อดำรงชีวิตอยู่ต่อไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากกรณี นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาในคดีสังหาร นางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส อายุ 21 ปี บริเวณลานจอดรถหน้าองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้โอนเงินให้ครอบครัวสปายไป 7 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่ของสปาย เคยออกมากล่าวว่าได้เงินแค่เพียง 1 ล้านบาท และ นางจอมศรี ชมภูพื้น แม่ของฟอส ได้กล่าวว่า หลังจากนี้ครอบครัวตนและสปาย ขอต่างคนต่างอยู่นั้น (อ่านข่าว : เสี่ยอ้วน ยิงน้องสปายน้องฟอส)
สำหรับเรื่องเงิน 7 ล้าน ตนเชื่อที่เสี่ยอ้วนชี้แจง เพราะเป็นข้อมูลที่มีหลักฐานชัดเจน ตนไม่รู้ว่าเป็นเงินสินสอดทองหมั้นหรือไม่ เพราะแม่ของสปายไม่เคยเล่าให้ฟัง
นางจอมศรี ชมภูพื้น แม่ของฟอส
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
นางจอมศรี กล่าวอีกว่า สปายมีพี่ชายชื่อเจมส์ หลังจากเหตุการณ์ที่สปายถูกยิง เจมส์ก็มีอาการป่วยทางจิต ตนเชื่อว่าอาจเป็นผลมาจากเวรกรรมที่ครอบครัวนั้นได้ทำไว้ เพราะไปเอาเงินคนอื่นมา ก็ควรคืนเขาไปตามจำนวนที่ได้รับมาให้ครบถ้วน และตามประเพณีความเชื่อของคนอีสาน หากไม่มีการคืนหรือชดใช้กัน ก็จะต้องเป็นบาปกรรมกันต่อไป และเชื่อว่าจะเห็นผลในชาตินี้อย่างแน่นอน
นางจอมศรี กล่าวอีกว่า ในวันก่อนวันคล้ายวันเกิดของฟอส ตนเห็นฟอสใส่ชุดขาวมายืนยิ้มให้ แต่ไม่ได้พูดอะไร คล้ายกับว่ามาบอกลาแม่ ไม่อยากให้แม่เป็นห่วงและทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น ซึ่งหลังจากที่จับเสี่ยอ้วนได้แล้ว ตนก็ไม่ได้เจอฟอสอีกเลย
สำหรับกรณีที่ตนเคยบอกว่าครอบครัวของตนและสปาย หลังจากนี้ก็ต่างคนต่างอยู่นั้น นางจอมศรี ชี้แจงว่า ตนไม่ได้หมายความว่าจะตัดญาติขาดมิตรใด ๆ เพราะอย่างไรครอบครัวก็ยังเป็นญาติกัน เพียงแค่หลังจากนี้ ต่างฝ่ายก็ต้องเดินหน้าทำมาหากินต่อไป ส่วนตนเมื่อไม่มีฟอสแล้ว ก็คงต้องหางานทำ เพื่อดำรงชีวิตอยู่ต่อไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก