เปิดใจอดีตนักวิชาการเกษตร ม. ดัง มุ่งทำนาและการเกษตรบนที่ดินบรรพบุรุษกลางกรุงเทพฯ กว่า 50 ไร่ - ปฏิเสธขายที่ดินให้นายทุนทำคอนโด ไร่ละ 30 ล้าน รวม 1,500 ล้านบาท ขอใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นายสมโภชน์ ทับเจริญ อายุ 60 ปี อดีตนักวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เจ้าของฟาร์ม @บางขวด ภายใน ซ.นวลจันทร์ 56 แยก 5 กทม. เปิดเผยถึงความมุ่งมั่นทำการเกษตรแบบพอเพียงใจกลางกรุงเทพฯ บนที่ดินกว่า 50 ไร่ ของพ่อตัวเอง แม้จะเคยมีนายทุนมาขอซื้อที่ดินต่อ ตีราคาไร่ละ 30 ล้าน รวม 1,500 ล้านบาท ก็ไม่ยอมขาย
นายสมโภชน์ เผยว่า ตนและภรรยาลาออกจากงานประจำเป็นนักวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง รวมรายได้ 2 คน ต่อปี กว่า 1 ล้านบาท ตั้งแต่เมื่อปี 2557 รวม 4 ปีแล้วที่หันมาทำนาทำการเกษตร เนื่องจากตนเองโตมากับการเกษตรตั้งแต่เล็กจนโต จึงมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะกลับมาทำการเกษตรอีกครั้ง โดยนำเอาความรู้ที่เคยทำงานด้านวิจัยมาประกอบในการทำสวนแบบผสม
ทั้งนี้ ที่ไร่ของตนปลูกพืชพรรณหลายชนิด อาทิ นาข้าว ถั่ว มะม่วง ขุดบ่อเลี้ยงปลา ทำการเกษตรหมุนเวียนตามพระราชดำรัสเกษตรพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 และนำผลผลิตที่ได้มาขาย ด้วยการเปิดร้านอาหารที่ใช้ผลผลิตจากฟาร์ม และในอนาคตอยากเปิดฟาร์มให้เป็นฟาร์มสเตย์ ให้ผู้คนมาพักผ่อนและมาดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์
นายสมโภชน์ เผยทิ้งท้ายว่า การที่ตนปฏิเสธนายทุนที่มาติดต่อซื้อที่ดินไปนั้น เพราะตนคิดว่าตนไม่ได้มีความสุขบนกองเงินกองทอง ตนมีความสุขกับการทำไร่ทำสวน แม้รายได้จะน้อยกว่าตอนเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย แต่มีความสุข
![เกษตรพอเพียง]( "เกษตรพอเพียง")
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นายสมโภชน์ ทับเจริญ อายุ 60 ปี อดีตนักวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เจ้าของฟาร์ม @บางขวด ภายใน ซ.นวลจันทร์ 56 แยก 5 กทม. เปิดเผยถึงความมุ่งมั่นทำการเกษตรแบบพอเพียงใจกลางกรุงเทพฯ บนที่ดินกว่า 50 ไร่ ของพ่อตัวเอง แม้จะเคยมีนายทุนมาขอซื้อที่ดินต่อ ตีราคาไร่ละ 30 ล้าน รวม 1,500 ล้านบาท ก็ไม่ยอมขาย
นายสมโภชน์ เผยว่า ตนและภรรยาลาออกจากงานประจำเป็นนักวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง รวมรายได้ 2 คน ต่อปี กว่า 1 ล้านบาท ตั้งแต่เมื่อปี 2557 รวม 4 ปีแล้วที่หันมาทำนาทำการเกษตร เนื่องจากตนเองโตมากับการเกษตรตั้งแต่เล็กจนโต จึงมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะกลับมาทำการเกษตรอีกครั้ง โดยนำเอาความรู้ที่เคยทำงานด้านวิจัยมาประกอบในการทำสวนแบบผสม
ทั้งนี้ ที่ไร่ของตนปลูกพืชพรรณหลายชนิด อาทิ นาข้าว ถั่ว มะม่วง ขุดบ่อเลี้ยงปลา ทำการเกษตรหมุนเวียนตามพระราชดำรัสเกษตรพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 และนำผลผลิตที่ได้มาขาย ด้วยการเปิดร้านอาหารที่ใช้ผลผลิตจากฟาร์ม และในอนาคตอยากเปิดฟาร์มให้เป็นฟาร์มสเตย์ ให้ผู้คนมาพักผ่อนและมาดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์
นายสมโภชน์ เผยทิ้งท้ายว่า การที่ตนปฏิเสธนายทุนที่มาติดต่อซื้อที่ดินไปนั้น เพราะตนคิดว่าตนไม่ได้มีความสุขบนกองเงินกองทอง ตนมีความสุขกับการทำไร่ทำสวน แม้รายได้จะน้อยกว่าตอนเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย แต่มีความสุข
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
