ศาลจังหวัดนางรอง ยกฟ้องคดีลูกเขยแจ้งความจับแม่ยายและญาติ ยักยอกลอตเตอรี่ 12 ล้าน ด้านแม่ยายดีใจที่ความยุติธรรมมีจริง หลังถูกตราหน้าว่าเป็นขโมยกว่า 5 เดือน ยืนยันไม่ฟ้องกลับ ไม่อยากเสียเวลาดำเนินคดี
จากกรณีที่หนุ่มวัย 15 ปี ได้แจ้งความจับแม่ยายตัวเองคือ นางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 44 ปี พร้อมกับ น.ส.สมศรี อายุ 21 ปี ลูกสาวนางมานิตย์ และนางฉวีวรรณ ลูกจันทร์ อายุ 30 ปี หลานสาวนางมานิตย์ ในข้อหายักยอกทรัพย์ สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 หมายเลข 412073 งวดวันที่ 1 เมษายน 2561 จำนวน 2 ใบ เงินรางวัล 12 ล้านบาท หลังฝากเอาไว้แต่อีกฝ่ายเอาไปขึ้นเงินนั้น (อ่านข่าว : หนุ่มแจ้งจับแม่ยาย อมเงินหวย 12 ล้าน อีกฝ่ายท้าให้ตรวจ ลั่นยังจนเหมือนเดิม)
ความคืบหน้าล่าสุด (10 กันยายน 2561) สปริงนิวส์ รายงานว่า ทนายปิยณัฐ สุกยัง ทนายอาสาจากเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมจำเลยทั้ง 3 คน ได้เดินทางไปฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2561
โดยศาลวินิจฉัยว่า คดีดังกล่าวมีเพียงแค่พยานบุคคลและพยานบอกเล่า ไม่มีวัตถุพยานหรือเอกสารมายืนยันว่าจำเลยทำผิดจริง อีกทั้งไม่ปรากฏชื่อของโจทก์และชื่อของจำเลยทั้ง 3 คน ไปขึ้นเงินที่กองสลาก ศาลจึงมีคำพิพากษายกคำร้องของโจทก์ในชั้นไต่สวน
ด้านนางมานิตย์ และนางฉวีวรรณ ผู้ถูกฟ้อง เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ศาลยกฟ้องและเชื่อว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง ซึ่งที่ผ่านมาก็ยืนยันในความบริสุทธิ์มาตลอด ยอมรับว่าหลังถูกกล่าวหาว่ายักยอกลอตเตอรี่ 12 ล้าน ก็ตกเป็นจำเลยสังคม ถูกตราหน้าว่าเป็นหัวขโมยมานานกว่า 5 เดือน
แม้จะมั่นใจในความบริสุทธิ์ว่าไม่เคยเห็นลอตเตอรี่ดังกล่าว และไม่รู้ว่าลูกเขยถูกลอตเตอรี่จริงหรือไม่ ทำให้ทุกข์ใจมาโดยตลอด ทั้งยังต้องเสียเงินและเสียเวลาไปขึ้นศาล แต่พอมีทนายอาสามาช่วยเหลือจนศาลยกคำฟ้อง ก็รู้สึกดีใจที่จะได้ไปทำมาหากินตามปกติ
นอกจากนี้ นางมานิตย์ ระบุว่า ตอนแรกคิดที่จะฟ้องกลับลูกเขย แต่ตัดสินใจไม่ฟ้องกลับ เพราะไม่อยากเสียเวลาดำเนินคดี และตนก็พอใจกับการตัดสินยกฟ้องของศาลแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากกรณีที่หนุ่มวัย 15 ปี ได้แจ้งความจับแม่ยายตัวเองคือ นางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 44 ปี พร้อมกับ น.ส.สมศรี อายุ 21 ปี ลูกสาวนางมานิตย์ และนางฉวีวรรณ ลูกจันทร์ อายุ 30 ปี หลานสาวนางมานิตย์ ในข้อหายักยอกทรัพย์ สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 หมายเลข 412073 งวดวันที่ 1 เมษายน 2561 จำนวน 2 ใบ เงินรางวัล 12 ล้านบาท หลังฝากเอาไว้แต่อีกฝ่ายเอาไปขึ้นเงินนั้น (อ่านข่าว : หนุ่มแจ้งจับแม่ยาย อมเงินหวย 12 ล้าน อีกฝ่ายท้าให้ตรวจ ลั่นยังจนเหมือนเดิม)
ความคืบหน้าล่าสุด (10 กันยายน 2561) สปริงนิวส์ รายงานว่า ทนายปิยณัฐ สุกยัง ทนายอาสาจากเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมจำเลยทั้ง 3 คน ได้เดินทางไปฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2561
โดยศาลวินิจฉัยว่า คดีดังกล่าวมีเพียงแค่พยานบุคคลและพยานบอกเล่า ไม่มีวัตถุพยานหรือเอกสารมายืนยันว่าจำเลยทำผิดจริง อีกทั้งไม่ปรากฏชื่อของโจทก์และชื่อของจำเลยทั้ง 3 คน ไปขึ้นเงินที่กองสลาก ศาลจึงมีคำพิพากษายกคำร้องของโจทก์ในชั้นไต่สวน
ด้านนางมานิตย์ และนางฉวีวรรณ ผู้ถูกฟ้อง เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ศาลยกฟ้องและเชื่อว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง ซึ่งที่ผ่านมาก็ยืนยันในความบริสุทธิ์มาตลอด ยอมรับว่าหลังถูกกล่าวหาว่ายักยอกลอตเตอรี่ 12 ล้าน ก็ตกเป็นจำเลยสังคม ถูกตราหน้าว่าเป็นหัวขโมยมานานกว่า 5 เดือน
แม้จะมั่นใจในความบริสุทธิ์ว่าไม่เคยเห็นลอตเตอรี่ดังกล่าว และไม่รู้ว่าลูกเขยถูกลอตเตอรี่จริงหรือไม่ ทำให้ทุกข์ใจมาโดยตลอด ทั้งยังต้องเสียเงินและเสียเวลาไปขึ้นศาล แต่พอมีทนายอาสามาช่วยเหลือจนศาลยกคำฟ้อง ก็รู้สึกดีใจที่จะได้ไปทำมาหากินตามปกติ
นอกจากนี้ นางมานิตย์ ระบุว่า ตอนแรกคิดที่จะฟ้องกลับลูกเขย แต่ตัดสินใจไม่ฟ้องกลับ เพราะไม่อยากเสียเวลาดำเนินคดี และตนก็พอใจกับการตัดสินยกฟ้องของศาลแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
