กรมขนส่งแจงปมคืนใบขับขี่ตลอดชีพ "เก่ง เกียร์อาร์" เหตุเจ้าตัวคัดสำเนาผลคำพิพากษาถึงที่สุดศาล-ไม่ทำผิดซ้ำ จึงคืนของกลางให้ ล่าสุดยื่นขอคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว เตรียมยึดรอบสองหากคำพิพากษาสั่งเพิกถอนใบขับขี่ตลอดชีพ ด้านเจ้าตัวขอเลิกจองเวร สิ่งที่ทำผิดน้อยกว่าเมาแล้วชนคนตาย
โดยระบุว่า ขณะเกิดเหตุเมื่อเดือนมกราคม 2559 ทาง สน.ดินแดง ได้ทำคดีและยึดใบขับขี่นายภัทรศักดิ์ ไว้ใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ขณะที่กรมการขนส่งทางบก ในฐานะนายทะเบียน ได้พิจารณาพฤติกรรมการขับรถ และเห็นควรยึดใบขับขี่ของนายภัทรศักดิ์ ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 8 มกราคม 2560
ซึ่งทางด้านของนายภัทรศักดิ์
ก็ไม่มีการเข้ามารับคืน
จนกระทั่งคดีความในชั้นศาลถึงที่สุดจึงคัดสำเนามาขอคืนของกลางที่กรมการขนส่งทางบก
ซึ่งเห็นว่าตลอดระยะเวลาที่ถูกยึดใบขับขี่ นายภัทรศักดิ์ ไม่ได้ทำผิดซ้ำ
จึงคืนของกลางให้
ขณะที่
นายภัทรศักดิ์ หรือ เก่ง เกียร์อาร์
ได้กล่าวยืนยันในความถูกต้องและสิทธิ์ใช้ใบขับขี่ตลอดชีพที่ไปทำทันเป็นรุ่นสุดท้าย
พร้อมกล่าวถึงเพจดังที่นำเรื่องราวของตนเองไปโพสต์ให้ลูกเพจเข้ามาวิจารณ์จำนวนมากว่า
ขอให้เลิกสร้างเวรต่อกัน
โดยตนเข้าใจว่าอาจไม่พอใจเกี่ยวกับพฤติกรรมตนเองในอดีต
แต่สิ่งที่ทำลงไปก็ไม่ใช่ความผิดเรื่องร้ายแรง
และยังน้อยกว่าการเมาแล้วขับจนชนคนตายด้วยซ้ำ

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 นายกมล บูรณพงศ์
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีนายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือ
เก่ง เกียร์อาร์ ขับรถถอยหลังชนคู่กรณี แต่ปฏิเสธอ้างว่าถูกขับรถชนท้าย
จนสุดท้ายถูกสังคมกดดันจนต้องออกมายอมรับว่าถอยรถชน
พร้อมถูกดำเนินคดี-ยึดใบขับขี่ และล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ภาพ
และข้อความคู่ใบขับขี่
โดยระบุว่า ขณะเกิดเหตุเมื่อเดือนมกราคม 2559 ทาง สน.ดินแดง ได้ทำคดีและยึดใบขับขี่นายภัทรศักดิ์ ไว้ใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ขณะที่กรมการขนส่งทางบก ในฐานะนายทะเบียน ได้พิจารณาพฤติกรรมการขับรถ และเห็นควรยึดใบขับขี่ของนายภัทรศักดิ์ ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 8 มกราคม 2560
นอกจากนี้ กรมการขนส่งฯ
ไม่สามารถเพิกถอนใบขับขี่ได้หากคดียังไม่สิ้นสุด
และยังไม่ได้เอกสารที่เป็นหลักฐานชัดเจนจากศาล
ขณะนี้ได้ส่งเรื่องขอเอกสารคำพิพากษาของศาลฎีกา จากศาลแขวงพระนครเหนือแล้ว
คาดว่าจะได้เอกสารในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งถ้าพบว่าศาลฎีกายืนพิพากษาตามศาลชั้นต้น
และชั้นอุทธรณ์ ให้เพิกถอนใบขับขี่นายภัทรศักดิ์
ก็จะเพิกถอนยึดคืนใบขับขี่ตลอดชีพทันที หลังจากนั้นหากนายภัทรศักดิ์
ต้องการขอทำใบขับขี่ใหม่ ต้องรออีก 3 ปี ตามกฎหมาย
จึงจะมีสิทธิ์มาทดสอบขอรับใบขับขี่ใหม่
ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นทั้งการสอบข้อเขียน สอบภาคปฏิบัติ
ต้องผ่านเกณฑ์จึงจะได้ใบขับขี่ใหม่ เป็นแบบชั่วคราว 1 ปี ก่อนเปลี่ยนเป็น 5
ปี โดยไม่มีสิทธิ์ได้แบบตลอดชีพอีก

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก