โอปป้าเกาหลีแทบช็อก เที่ยวร้านคาราโอเกะคืนเดียว โดนฟันไป 1.6 แสน โร่แจ้งความตำรวจ ทางร้านรีบนำเงินมาคืน 6 หมื่น แต่เจ้าตัวยังเชื่อว่าโดนเอาเปรียบ พร้อมเดินหน้าเอาผิดต่อไป
วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายจอง กึน บก อายุ 46 ปี นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ หลังไปเที่ยวร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งแล้วโดนเอาเปรียบ
นายจอง กึน บก เล่าว่า ตนไปนั่งร้านคาราโอเกะย่านถนนเจริญประเทศ ทันทีที่เข้าไปนั่งในร้าน จู่ ๆ สาวพนักงานร้านนับ 10 คน ก็วิ่งกรูมาขอนั่งด้วย ทั้งที่ตนยังไม่ได้เรียก แต่ตนไม่กล้าเอ่ยปากไล่ จึงสั่งอาหารมาเลี้ยง เพราะคิดว่าเต็มที่ยังไงก็ไม่เกิน 1 หมื่นบาท พอเช็กบิลตนได้ใช้บัตรเครดิตรูดจ่าย แล้วก็แทบช็อก ตนเกือบเป็นลมเมื่อถูกเรียกเก็บค่าบริการถึง 160,000 บาท จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ทันที
ต่อมา ร้านคาราโอเกะรู้ว่าตนมาแจ้งความ ก็รีบส่งตัวแทนมาขอคืนเงินให้ 6 หมื่นบาท ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนยังมองว่าไม่ยุติธรรม จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อสถานทูต และมาแจ้งความอีกครั้ง ซึ่งทางตำรวจได้รีบดำเนินการเชิญเจ้าของร้านมาเจรจาเพื่อตกลงกันต่อไป
ขณะที่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายเกษม เหล่าหมี่ อายุ 26 ปี ผู้จัดการร้านคาราโอเกะ ย่านถนนเจริญประเทศที่ตกเป็นข่าว ยืนยันว่านักท่องเที่ยวเกาหลีคนดังกล่าวไม่ได้มานั่งร้านตนเอง แต่นั่งร้านคาราโอเกะย่านถนนศรีดอนไชยในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ร้านนั้นมาขอยืมใช้เครื่องรูดบัตรเครดิตจากร้านของตน ซึ่งจำนวนเงินที่เรียกเก็บนั้น รู้มาว่าเป็นค่านั่งดริงก์ ค่าห้องคาราโอเกะหลายชั่วโมง และค่าเครื่องดื่มจำนวนมาก
นอกจากนี้ ไบรท์ทีวี ยังรายงานว่า ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้เข้าตรวจสอบร้านคาราโอเกะดังกล่าวแล้ว แต่ร้านปิด ซึ่งทางตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าเอาเปรียบนักท่องเที่ยวจริงจะดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,
, 
วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายจอง กึน บก อายุ 46 ปี นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ หลังไปเที่ยวร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งแล้วโดนเอาเปรียบ
นายจอง กึน บก เล่าว่า ตนไปนั่งร้านคาราโอเกะย่านถนนเจริญประเทศ ทันทีที่เข้าไปนั่งในร้าน จู่ ๆ สาวพนักงานร้านนับ 10 คน ก็วิ่งกรูมาขอนั่งด้วย ทั้งที่ตนยังไม่ได้เรียก แต่ตนไม่กล้าเอ่ยปากไล่ จึงสั่งอาหารมาเลี้ยง เพราะคิดว่าเต็มที่ยังไงก็ไม่เกิน 1 หมื่นบาท พอเช็กบิลตนได้ใช้บัตรเครดิตรูดจ่าย แล้วก็แทบช็อก ตนเกือบเป็นลมเมื่อถูกเรียกเก็บค่าบริการถึง 160,000 บาท จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ทันที
ต่อมา ร้านคาราโอเกะรู้ว่าตนมาแจ้งความ ก็รีบส่งตัวแทนมาขอคืนเงินให้ 6 หมื่นบาท ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนยังมองว่าไม่ยุติธรรม จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อสถานทูต และมาแจ้งความอีกครั้ง ซึ่งทางตำรวจได้รีบดำเนินการเชิญเจ้าของร้านมาเจรจาเพื่อตกลงกันต่อไป
ขณะที่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายเกษม เหล่าหมี่ อายุ 26 ปี ผู้จัดการร้านคาราโอเกะ ย่านถนนเจริญประเทศที่ตกเป็นข่าว ยืนยันว่านักท่องเที่ยวเกาหลีคนดังกล่าวไม่ได้มานั่งร้านตนเอง แต่นั่งร้านคาราโอเกะย่านถนนศรีดอนไชยในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ร้านนั้นมาขอยืมใช้เครื่องรูดบัตรเครดิตจากร้านของตน ซึ่งจำนวนเงินที่เรียกเก็บนั้น รู้มาว่าเป็นค่านั่งดริงก์ ค่าห้องคาราโอเกะหลายชั่วโมง และค่าเครื่องดื่มจำนวนมาก
นอกจากนี้ ไบรท์ทีวี ยังรายงานว่า ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้เข้าตรวจสอบร้านคาราโอเกะดังกล่าวแล้ว แต่ร้านปิด ซึ่งทางตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าเอาเปรียบนักท่องเที่ยวจริงจะดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


