ยอดผู้สูญหายเหตุแผ่นดินไหว-สึนามิ ที่อินโดนีเซีย พุ่งทะลุ 5,000 ราย ทางการเผย หลังจาก 11 ตุลาคม ผู้สูญหายที่ยังไม่พบ จะนับว่าเสียชีวิตแล้ว
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561 เว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยน รายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.5 และสึนามิ ที่เกิดขึ้นบนเกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา คือหนึ่งในภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุดของภูมิภาค หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ยังคงเดินหน้าค้นหาร่างผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้สามารถเก็บกู้ศพได้แล้ว 1,763 ศพ แต่ที่น่ากังวลกว่านั้นก็คือ ยังมีผู้สูญหายที่ยังไม่สามารถหาพบอีกเป็นจำนวนมาก
ยิ่งเวลาผ่านไป การติดตามค้นหาผู้สูญหายก็เป็นเรื่องยากและท้าทายมากขึ้น เนื่องจากดินในพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิ ได้กลายสภาพเป็นดินเหลว (Liquefaction) ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ทรุดตัวลง และร่างผู้เสียชีวิตก็ถูกกลืนหายลงไปใต้ดิน
นายซูโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ในขณะนี้ยังไม่พบตัวประชาชนกว่า 5,000 คน ที่สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ ในพื้นที่เมืองปาลู เปโตโบ และบาลารัว
เจ้าหน้าที่ได้พยายามเก็บข้อมูลเพื่อยืนยันตัวเลขผู้สูญหายที่แน่ชัด แต่การทำงานเป็นไปได้ยากมาก เพราะร่างของผู้คนจำนวนมากนั้นติดอยู่ใต้โคลน ดินเหลว และดินถล่ม เฉพาะเมืองปาลูแห่งเดียว คาดว่ามีผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ดินและซากปรักหักพังต่าง ๆ ประมาณ 1,000 คน ส่วนความเสียหายที่เมืองเปโตโบ และบาลารัว ยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้นมาก อาคารบ้านเรือนต่าง ๆ เสียหายยับเยิน ผู้สูญหายหลายพันคนถูกฝังอยู่ใต้เมือง ไม่ต่างจากสุสานหมู่
นายนูโกรโฮ กล่าวอีกว่า การค้นหาผู้สูญหายจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม ซึ่งหลังจากวันนั้นแล้ว ผู้สูญหายทั้งหมดที่ยังไม่พบจะถือว่าเสียชีวิตแล้ว
ข้อมูลจากสำนักข่าวบีบีซี ระบุว่า จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุภัยพิบัติครั้งนี้ คือ 2,549 คน และประชาชนอย่างน้อย 70,000 คน ต้องกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย สำหรับผู้สูญหายนั้น ประชาชนหลายคนยังมีความหวังอยู่บ้าง และไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ยุติการค้นหา
โดย เดเด ดิมาน ชายหนุ่ม วัย 25 ปี เปิดเผยว่า เขาไม่พอใจที่ทางการจะยุติการตามหาผู้สูญหาย เพราะน้องสาวของเขายังคงหายตัวไป และเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ลงมาตรวจสอบค้นหาในจุดที่เขาเชื่อว่าน้องหายไปด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้น ในช่วง 3 วันที่ผ่านมานี้ ในจำนวนผู้สูญหายที่เจ้าหน้าที่ค้นพบ ไม่มีใครรอดชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว