สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สั่งอายัดทรัพย์สินและที่ดิน "บูม จิรัชพิสิษฐ์" กว่า 40 ล้านบาท และพวกอีก รวม 210 ล้านบาท ในคดีฉ้อโกงเงินบิตคอยน์ - ฟอกเงิน
คำสั่งของคณะกรรมการธุรกรรม
ระบุอีกว่า จากการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน
ปรากฏหลักฐานเป็นที่น่าเชื่อได้ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์กระทำความผิดตามกฎหมายฟอกเงินตามมาตรา
4 และ 5 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง
หรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน
ซึ่งจากการรวบรวมหลักฐานพบว่านายปริญญา และพวก
ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรวม 64 รายการ มูลค่า 210
ล้านบาท (ทรัพย์สินบางส่วนอยู่ระหว่างประเมินราคา) เป็นเงินฝากธนาคาร
และสิทธิ์เรียกร้องอันเป็นทรัพย์ที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด
ซ่อนเร้นได้โดยง่าย
สำหรับทรัพย์สินดังกล่าว
ประกอบด้วย บัญชีเงินฝากธนาคารในชื่อของนายจิรัชพิสิษฐ์ จำนวน 5 บัญชี
ซึ่งสามารถประเมินราคาได้ 2 บัญชี มูลค่า 4 ล้านบาท
อยู่ระหว่างการประเมินราคาอีก 3 บัญชี และที่ดินเขตจตุจักร เนื้อที่ 3 งาน
80 ตารางวา ที่มีชื่อ นายจิรัชพิสิษฐ์ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ มูลค่า 43
ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกยึดทรัพย์หรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์ดังกล่าวต้องการขอให้เพิกถอนคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ ให้ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์ที่ถูกยึดอายัดนั้นไม่ใช่ทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อเลขาธิการ ปปง. ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือทราบคำสั่งนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก Instagram bxxm_jj
วันที่ 9 ตุลาคม 2561 มีรายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ปปง.) ได้มีการเผยแพร่คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.174/2561
มีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด กรณีนายปริญญา
จารวิจิต พี่ชายของนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือ บูม ดารานักแสดง กับพวก
มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา
อันมีลักษณะเป็นปกติธุระและฐานความผิดร่วมกันฟอกเงิน
วางแผนและสมคบกันหลอกลวง โดยชักชวนให้ นายอาร์นี่ โอทาวา ซาริมา
ชาวฟินแลนด์ (Mr.Aarni Otava Saarimaa) ร่วมลงทุนซื้อหุ้นกับบริษัท Expay
Software จำกัด และ Nx Chain Inc
ลงทุนประกอบธุรกิจซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัลในชื่อดราก้อน คอยน์ dragon coin
(DRG) และหุ้นของบริษัท ดีเอสเอ 2002 จำกัด (มหาชน)
โดยอ้างว่าเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง เป็นเหตุให้นายอาร์นี่หลงเชื่อ
ลงชื่อในสัญญาที่ฝ่ายนายปริญญาจัดทำขึ้น และโอนเหรียญบิตคอยน์
ซึ่งเป็นเงินดิจิทัลเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่กลุ่มนายปริญญาเปิดรองรับไว้รวม
19 ครั้ง คิดเป็นเงินไทย 797 ล้านบาท
แต่นายอาร์นี่ไม่ได้รับหุ้นครบตามสัญญา และไม่มีการนำเงินไปลงทุนในหุ้นจริง
จึงทราบว่าถูกนายปริญญากับพวกหลอกลวง
ทั้งนี้
จากการตรวจสอบข้อมูลในบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่รับโอนเงินบิตคอยน์จากนายอาร์นี่
เป็นบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของบุคคลต่าง ๆ ที่ร่วมกันหลอกลวง
และมีการขายเหรียญบิตคอยน์ผ่านระบบการซื้อ-ขายในอินเทอร์เน็ต
จากนั้นจึงนำเงินที่ได้โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารที่เปิดรองรับไว้
ส่วนเหรียญบิตคอยน์ที่เหลือได้ถูกโอนออกไปยังบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์อื่น
ๆ ซึ่งจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม พบข้อมูลว่ามีการนำเงินไปรับซื้อฝากที่ดินและซื้อที่ดินหลายแปลงในชื่อของนายปริญญา
และพวก อันถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน
ภาพจาก Instagram bxxm_jj
รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ประเภทโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียนที่ผู้ครองครองกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิ์ครอบครองสามารถทำนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองได้
ถ้าไม่มีการออกคำสั่งอายัดทรัพย์ดังกล่าวไว้
ต่อมาหากศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์ดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ปปง.
อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์ดังกล่าวกลับคืนมาได้ คณะกรรมการธุรกรรม
จึงมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินทั้ง 64 รายการ พร้อมดอกผล ไว้ชั่วคราว
มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม - 11 พฤศจิกายน 2561
ภาพจาก Instagram bxxm_jj
ส่วนที่เหลือเป็นบัญชีเงินฝากธนาคารและที่ดินในชื่อของนายปริญญา,
นางสาวสุพิชฌาย์ จารวิจิต และชื่อบุคคลอื่น ๆ อีก รวม 59 รายการ
รวมจำนวนเงินทั้งหมด 210 ล้านบาท
ภาพจาก Instagram bxxm_jj
ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกยึดทรัพย์หรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์ดังกล่าวต้องการขอให้เพิกถอนคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ ให้ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์ที่ถูกยึดอายัดนั้นไม่ใช่ทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อเลขาธิการ ปปง. ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือทราบคำสั่งนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก