เปิดคดีโหด คู่รักวิปริต ลวงเหยื่อ 20 ราย มาฆ่าถึงบ้าน สับร่างทิ้งเป็นอาหารสัตว์ บดกระดูกเป็นปุ๋ย ยังไม่เผยแรงจูงใจ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
รายงานเผยว่า คู่รักดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่จับตามองอย่างใกล้ชิด
หลังพบว่าน่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับหญิง 3 คนที่หายตัวไป
โดยหนึ่งในนั้นเป็นคุณแม่ ที่หายตัวไปพร้อมกับลูกสาววัย 2 เดือน
กระทั่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2
คน ได้เข็นรถเข็นเด็กออกมาจากบ้าน จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
ด้วยเชื่อว่าภายในรถเข็นน่าจะมีเด็กที่หายไปอยู่ในนั้น
ทว่าสิ่งที่พวกเขาพบกลับเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึง เพราะสิ่งที่อยู่ในรถเข็นเด็กกลับเป็นถุงขยะใบหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนมนุษย์ และชายหญิงคู่นี้ก็กำลังจะนำชิ้นส่วนดังกล่าวไปกำจัดยังพื้นที่รกร้างใกล้บ้าน
อย่างไรก็ตามนับว่ายังเป็นเคราะห์ดี ที่ได้ทราบว่าทั้งคู่จัดการขายทารกหญิงไปแล้ว ในราคา 15,000 เปโซ หรือ 26,000 บาท ซึ่งทางตำรวจสามารถติดตามเบาะแสจนช่วยเหลือทารกน้อย นำตัวส่งกลับไปสู่อ้อมอกของผู้เป็นยายได้ในที่สุด
แต่สำหรับแม่เด็กกลับไม่โชคดีอย่างนั้น โดยเชื่อว่าเธอน่าจะกลายเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกคู่รักใจโหดสังหารไปแล้ว...
ทั้งนี้สำหรับพฤติการณ์ของชายหญิงคู่นี้
พบว่าฝ่ายหญิงจะทำทีเป็นเสนอขายเสื้อผ้าให้เหยื่อที่เป็นผู้หญิง
ลวงพวกเธอเหล่านั้นให้เข้ามาที่บ้าน ก่อนจะลงมือสังหารอย่างเลือดเย็น
และนำศพไปกำจัดทิ้ง โดยนอกจากชิ้นส่วนศพที่พบในรถเข็นเด็กแล้ว
ทางตำรวจยังเก็บกู้ชิ้นส่วนศพอื่น ๆ
ได้จากที่ดินรกร้างที่อยู่ใกล้บ้านของผู้ต้องหา รวมถึงที่อื่น ๆ อีก 2 แห่ง
หนึ่งในสถานที่พบศพตั้งอยู่ในเอกาเตเปก ซึ่งเป็นย่านยากจนที่สุดของเม็กซิโกซิตี โดยศพบางส่วนถูกเก็บไว้ในถังพลาสติกโบกซีเมนต์ทับ และชิ้นส่วนอื่น ๆ ถูกแช่เก็บไว้ในตู้เย็น
แม้ว่าจะยังไม่ทราบจำนวนเหยื่อที่ชัดเจน รวมถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ก็เชื่อว่าน่าจะมีผู้ตกเป็นเหยื่อของพวกเขามากถึง 10 รายด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างถูกนำตัวขึ้นศาลในวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ฮวน การ์ลอส เอ็น. กลับยอมรับว่าจำนวนเหยื่อที่เขาสังหารไปนั้นมีมากกว่านั้น เพราะเขาได้ฆ่าผู้หญิงไปแล้วถึง 20 คน โดยได้เลาะเอากระดูกของพวกเธอมาบดเป็นปุ๋ยแล้ว ส่วนเนื้อสด ๆ เหล่านั้นก็จัดการชำแหละ นำไปสับเป็นอาหารให้สัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ มีรายงานว่าเหยื่อบางรายได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ก่อนถูกสังหาร ขณะที่ แพทริเซีย เอ็น. ถูกกล่าวหาเป็นคนจัดการล่อลวงเหยื่อเหล่านี้มาที่บ้าน รวมถึงเป็นผู้ลงมือกำจัดศพ
วันที่ 9 ตุลาคม 2561 เว็บไซต์อินดิเพนเดนต์ มีรายงานถึงคดีสุดโหดที่เกิดขึ้นในประเทศเม็กซิโก เมื่อคู่รักชาย-หญิง
ที่ระบุชื่อเพียง ฮวน การ์ลอส เอ็น. และ แพทริเซีย เอ็น.
ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
ฐานต้องสงสัยร่วมกันก่อเหตุล่อลวงและฆาตกรรมเหยื่อจำนวนมาก
ภายในบ้านของทั้งคู่ที่เม็กซิโกซิตี
นับเป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนความรุนแรงของหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเกิดคดีอาชญากรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ทว่าสิ่งที่พวกเขาพบกลับเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึง เพราะสิ่งที่อยู่ในรถเข็นเด็กกลับเป็นถุงขยะใบหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนมนุษย์ และชายหญิงคู่นี้ก็กำลังจะนำชิ้นส่วนดังกล่าวไปกำจัดยังพื้นที่รกร้างใกล้บ้าน
อย่างไรก็ตามนับว่ายังเป็นเคราะห์ดี ที่ได้ทราบว่าทั้งคู่จัดการขายทารกหญิงไปแล้ว ในราคา 15,000 เปโซ หรือ 26,000 บาท ซึ่งทางตำรวจสามารถติดตามเบาะแสจนช่วยเหลือทารกน้อย นำตัวส่งกลับไปสู่อ้อมอกของผู้เป็นยายได้ในที่สุด
แต่สำหรับแม่เด็กกลับไม่โชคดีอย่างนั้น โดยเชื่อว่าเธอน่าจะกลายเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกคู่รักใจโหดสังหารไปแล้ว...
หนึ่งในสถานที่พบศพตั้งอยู่ในเอกาเตเปก ซึ่งเป็นย่านยากจนที่สุดของเม็กซิโกซิตี โดยศพบางส่วนถูกเก็บไว้ในถังพลาสติกโบกซีเมนต์ทับ และชิ้นส่วนอื่น ๆ ถูกแช่เก็บไว้ในตู้เย็น
แม้ว่าจะยังไม่ทราบจำนวนเหยื่อที่ชัดเจน รวมถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ก็เชื่อว่าน่าจะมีผู้ตกเป็นเหยื่อของพวกเขามากถึง 10 รายด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างถูกนำตัวขึ้นศาลในวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ฮวน การ์ลอส เอ็น. กลับยอมรับว่าจำนวนเหยื่อที่เขาสังหารไปนั้นมีมากกว่านั้น เพราะเขาได้ฆ่าผู้หญิงไปแล้วถึง 20 คน โดยได้เลาะเอากระดูกของพวกเธอมาบดเป็นปุ๋ยแล้ว ส่วนเนื้อสด ๆ เหล่านั้นก็จัดการชำแหละ นำไปสับเป็นอาหารให้สัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ มีรายงานว่าเหยื่อบางรายได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ก่อนถูกสังหาร ขณะที่ แพทริเซีย เอ็น. ถูกกล่าวหาเป็นคนจัดการล่อลวงเหยื่อเหล่านี้มาที่บ้าน รวมถึงเป็นผู้ลงมือกำจัดศพ
ทั้งนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
มีผู้หญิงจำนวนมากถึงหลายพันคน ที่หายตัวไปหรือคาดว่าถูกฆาตกรรม
ท่ามกลางความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในเม็กซิโก
โดยสถิติของรัฐบาลระบุว่า มีผู้หญิงอย่างน้อย 2,585 คน
ที่สงสัยว่าจะถูกฆาตกรรมในปี 2560 มากกว่าตัวเลขในปี 2558
ซึ่งมีจำนวนเหยื่อ 1,755 ราย
ขณะที่เอกาเตเปกนั้นได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของเหตุฆาตกรรมต่าง ๆ