กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เตรียมดันกฎหมายไซเบอร์ เข้า สนช. ก่อนเดือนตุลาคม คุมโซเชียลมีเดียช่วงการเลือกตั้ง หวั่นลิดรอนเสรีภาพประชาชน
ซึ่งล่าสุด วันที่ 16 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เสร็จแล้ว และมีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นโดยอยู่ในขั้นตอนของการปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่รับฟังความคิดเห็นมา และจะนำเสนอ ครม. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผลักดันให้เข้าคอร์สก่อนเดือนตุลาคม เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายควบคุมการใช้โซเชียลมีเดีย
แต่ขณะเดียวกันทางคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ในคณะกรรมการเตรียมการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ที่
ครม. แต่งตั้งตามที่กระทรวงดีอี เสนอ 7 คน
ได้พิจารณารายละเอียดแล้วไม่เห็นด้วยในเนื้อหาภาพรวม
เนื่องจากเกรงว่าจะมีปัญหาตามมา จึงเตรียมยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ในสัปดาห์นี้
เพื่อขอให้ทบทวนเนื้อหาหลายประเด็น อาทิ คำนิยามภัยคุกคามทางไซเบอร์
หลักการและสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.
นำมาจากกฎหมายไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของประเทศสิงคโปร์
มุ่งเน้นให้ความคุ้มครองระบบทางไซเบอร์ หรือโครงสร้างทางไซเบอร์
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ถูกจับตาเป็นพิเศษก็คือ
จะต้องมีการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
หรือ กปช. ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย มีความเห็นว่า
เนื้อหากฎหมายฉบับนี้ ให้อำนาจเลขาธิการ กปช. มากเกินไป
ตั้งแต่เข้าตรวจสอบสถานที่ เข้าถึงทรัพย์สินสารสนเทศ ยึดคอมพิวเตอร์ ไอโฟน
ไอแพด โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ใดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
รวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ทุกประเภท
โดยไม่ต้องผ่านการกลั่นกรองจากศาล หรือกระบวนการยุติธรรม ต่างจากการตรวจค้น
ยึดทรัพย์สินปกติ ที่จะต้องมีหมายเรียก หรือหมายค้นจากศาล
หรือหน่วยงานยุติธรรม จึงดำเนินการได้

จากประเด็นร้อนที่สังคมกำลังจับตามองกรณีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
(ดีอี) กำลังเร่งผลักดันกฎหมาย "พ.ร.บ.ไซเบอร์"
โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ก่อนการเลือกตั้ง เพื่อใช้ในการควบคุมเนื้อหาใน
Social Media
โดยถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นกฎหมายติดหนวดให้อำนาจเจ้าหน้าที่เกินไปหรือไม่
ซึ่งล่าสุด วันที่ 16 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เสร็จแล้ว และมีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นโดยอยู่ในขั้นตอนของการปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่รับฟังความคิดเห็นมา และจะนำเสนอ ครม. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผลักดันให้เข้าคอร์สก่อนเดือนตุลาคม เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายควบคุมการใช้โซเชียลมีเดีย
เนื่องจากร่างกฎหมายไซเบอร์ฉบับนี้ ขยายความคำว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์
กว้างครอบคลุมไปถึงเนื้อหา ข้อความที่โพสต์ การเผยแพร่ผ่านระบบคอมพิวเตอร์
ไอโฟน ไอแพด โทรศัพท์มือถือ ที่อาจมีสาระสำคัญกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
ทั้งที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ต้องมุ่งเน้นคุ้มครองระบบทางไซเบอร์
หรือโครงสร้างทางไซเบอร์ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ
เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามเจตนารมณ์และตามหลักสากล
ซึ่งต่างประเทศคุมที่ระบบ แต่กฎหมายนี้กลับคุมที่เนื้อหาด้วย

ดังนั้นการให้อำนาจเลขาธิการ กปช. ล้นฟ้ามากเกินไป
ย่อมขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
ที่สำคัญร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่มีกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจของเลขาธิการ
กปช. และไม่มีมาตรการอุทธรณ์คำสั่งเลขาธิการ กปช.
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก