เกิดเหตุสาวป่วยเป็นโรคลมชักอาการกำเริบ หน้าทิ่มจมใส่กะละมังใส่น้ำเสียชีวิต ด้านแพทย์ชี้ผู้ป่วยไม่ควรอยู่ตามลำพัง แนะควรอยู่ห่างแหล่งน้ำ-ภาชนะน้ำขัง
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 18 ตุลาคม 2561 ร.ต.อ. เรืองศักดิ์ เนื่องกิจ รองสารวัตรเวร (สอบสวน) สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานมีผู้ป่วยลมชักเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง บริเวณถนนในหมู่บ้านอุดมสุภซอย 2 ม.1 ต.รอบเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพนางรัชนีกุล ทองวิไล อายุ 34 ปี สภาพนอนหงายหน้าสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น อยู่บนถนนใกล้กับกะละมังที่ใส่น้ำเต็ม 1 ใบ ใกล้ ๆ มีโอ่งน้ำมังกร และเขียงไม้สำหรับขอดเกล็ดปลา ตรวจสอบไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นลูกจ้างรับจ้างทำปลาช่อนแดดเดียว โดยมีหน้าที่ล้างน้ำทำความสะอาด, ขอดเกล็ด, ผ่า-ตากแดดปลา ก่อนเกิดเหตุวันนี้อากาศร้อนมาก หลังจากทำความสะอาดปลาเสร็จ ช่วงที่ผู้เสียชีวิตลุกจากเก้าอี้นั่งเกิดมีอาการของโรคลมชักกำเริบ หน้าทิ่มใส่กะละมัง เนื่องจากอยู่กันตามลำพังเพียง 2 คน กับนายจ้าง ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือกันได้ทันจนเกิดเหตุสลด
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ด้าน นางบุญช่วย ทองวิไล อายุ 66 ปี มารดาของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตคือนางรัชนีกุล ทองวิไล มีลูก 2 คน สามีเลิกกัน โดยปกติจะมีอาการป่วยด้วยลมชักเดือนละครั้ง มารับยาและพบแพทย์รักษาประจำที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นพ.กมล รัศมีหิรัญ แพทย์เวรนิติเวชโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคลมชักไม่ควรปล่อยให้อยู่ลำพัง โดยเฉพาะใกล้แหล่งน้ำหรือภาชนะที่มีน้ำขังอันจะเป็นอันตราย โดยจะนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ก่อนให้ญาติรับไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
ทั้งนี้ นพ.กมล รัศมีหิรัญ แพทย์เวรนิติเวชโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคลมชักไม่ควรปล่อยให้อยู่ลำพัง โดยเฉพาะใกล้แหล่งน้ำหรือภาชนะที่มีน้ำขังอันจะเป็นอันตราย โดยจะนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ก่อนให้ญาติรับไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN