ตำรวจร่วมมืออย. วางแผนล่อซื้อ-จับกุมเครือข่ายขายยาทำแท้งเถื่อนออนไลน์ โดยอ้างตัวเป็นหมอ ขายยาเม็ดละ 1,000 เภสัชกรชี้เป็นยาควบคุมพิเศษ อันตรายถึงชีวิต
วันที่ 27 ตุลาคม 2561 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เผยรายงานการจับกุมผู้ลักลอบค้ายาทำแท้งเถื่อนผ่านทางออนไลน์ โดยใช้ชื่อว่า ไซโทล็อก (Cytolog) ซึ่งเป็นยาทำแท้งชนิดยาเหน็บหรือยาสอด สำหรับหญิงที่ไม่พร้อมจะมีบุตรหาซื้อได้ง่ายผ่านทางเว็บไซต์ รวมถึงกลุ่มปิดทางเพจเฟซบุ๊ก ไลน์ และทวิตเตอร์ โดยหญิงบางรายใช้ยาแล้วเกิดการตกเลือดหรือแท้งลูก
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้สืบทราบตัวการ ก่อนจะทำการล่อซื้อ กับทางเจ้าของเพจเฟซบุ๊กที่ขายยาชนิดดังกล่าวได้ 2 ราย ได้แก่ นางสาวน้ำทิพย์ อายุ 21 ปี นางสาววิกานดา อายุ 35 ปี ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนจะไปค้นบ้านยึดของกลางเป็นยาไซโทล็อก จำนวน 36 เม็ด ทั้งสองสารภาพว่า ทำมา 2 ปี โดยขายเม็ดละ 1,000 บาท รับทำแท้งถึงอายุครรภ์ 8 เดือน ค่าใช้จ่ายอายุครรภ์ 1-2 เดือน 6,000 เกินจากนั้น 3-8 เดือน เพิ่มเดือนละ 1,000 บาท พร้อมทั้งซัดทอดถึงนายเกรียงไกร ซึ่งอ้างว่าเคยเรียนหลักสูตรผู้ช่วยแพทย์แต่เรียนไม่จบ จึงมีความรู้ในการใช้ยาดังกล่าว
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่จะสามารถบกุมนายเกรียงไกร อายุ 25 ปี ได้พร้อมยึดของกลางเป็นยาไซโทล็อก จำนวน 146 เม็ด โดยนายเกรียงไกรจะส่งยาให้กับผู้ค้ารายย่อย นำยาไปขายให้ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นอีกนับ 10 ราย ขายในราคาเม็ดละ 1,000 บาท หนึ่งแผงมีทั้งหมด 10 เม็ด รวมเป็นแผงละ 10,000 บาท อีกทั้งทางเจ้าหน้ายังได้รวมพยานหลักฐานขยายผลจับกุม นางสาวรุ่งนภา อายุ 32 ปี บุคคลที่อ้างตัวเป็นหมอเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่มีใบอนุญาต, ร่วมกันขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา, และร่วมกันโฆษณาขายผ่านอินเตอร์เน็ต ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการสอบสวน เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับยาไซโทล็อก จัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ให้ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น ใช้สำหรับป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร แต่เนื่องจากยาตัวดังกล่าวจะออกฤทธิ์เพิ่มความแรงในการบีบตัวของมดลูก อาจทำให้ตัวอ่อนที่เกิดจากการปฎิสนธิในครรภ์ถูกขับออกมาได้ โดยเภสัชกร ประพนธ์ อางตระกูล ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ยาดังกล่าวจะออกฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบรัดตัวอย่างรุนแรง อาจทำกล้ามเนื้อมดลูกปริแตกจนไม่สามารถกลับมาตั้งท้องได้อีก หรืออาจจะทำให้มีอาการตกเลือดอย่างรุนแรงจนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 27 ตุลาคม 2561 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เผยรายงานการจับกุมผู้ลักลอบค้ายาทำแท้งเถื่อนผ่านทางออนไลน์ โดยใช้ชื่อว่า ไซโทล็อก (Cytolog) ซึ่งเป็นยาทำแท้งชนิดยาเหน็บหรือยาสอด สำหรับหญิงที่ไม่พร้อมจะมีบุตรหาซื้อได้ง่ายผ่านทางเว็บไซต์ รวมถึงกลุ่มปิดทางเพจเฟซบุ๊ก ไลน์ และทวิตเตอร์ โดยหญิงบางรายใช้ยาแล้วเกิดการตกเลือดหรือแท้งลูก
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้สืบทราบตัวการ ก่อนจะทำการล่อซื้อ กับทางเจ้าของเพจเฟซบุ๊กที่ขายยาชนิดดังกล่าวได้ 2 ราย ได้แก่ นางสาวน้ำทิพย์ อายุ 21 ปี นางสาววิกานดา อายุ 35 ปี ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนจะไปค้นบ้านยึดของกลางเป็นยาไซโทล็อก จำนวน 36 เม็ด ทั้งสองสารภาพว่า ทำมา 2 ปี โดยขายเม็ดละ 1,000 บาท รับทำแท้งถึงอายุครรภ์ 8 เดือน ค่าใช้จ่ายอายุครรภ์ 1-2 เดือน 6,000 เกินจากนั้น 3-8 เดือน เพิ่มเดือนละ 1,000 บาท พร้อมทั้งซัดทอดถึงนายเกรียงไกร ซึ่งอ้างว่าเคยเรียนหลักสูตรผู้ช่วยแพทย์แต่เรียนไม่จบ จึงมีความรู้ในการใช้ยาดังกล่าว
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่จะสามารถบกุมนายเกรียงไกร อายุ 25 ปี ได้พร้อมยึดของกลางเป็นยาไซโทล็อก จำนวน 146 เม็ด โดยนายเกรียงไกรจะส่งยาให้กับผู้ค้ารายย่อย นำยาไปขายให้ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นอีกนับ 10 ราย ขายในราคาเม็ดละ 1,000 บาท หนึ่งแผงมีทั้งหมด 10 เม็ด รวมเป็นแผงละ 10,000 บาท อีกทั้งทางเจ้าหน้ายังได้รวมพยานหลักฐานขยายผลจับกุม นางสาวรุ่งนภา อายุ 32 ปี บุคคลที่อ้างตัวเป็นหมอเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่มีใบอนุญาต, ร่วมกันขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา, และร่วมกันโฆษณาขายผ่านอินเตอร์เน็ต ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการสอบสวน เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับยาไซโทล็อก จัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ให้ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น ใช้สำหรับป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร แต่เนื่องจากยาตัวดังกล่าวจะออกฤทธิ์เพิ่มความแรงในการบีบตัวของมดลูก อาจทำให้ตัวอ่อนที่เกิดจากการปฎิสนธิในครรภ์ถูกขับออกมาได้ โดยเภสัชกร ประพนธ์ อางตระกูล ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ยาดังกล่าวจะออกฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบรัดตัวอย่างรุนแรง อาจทำกล้ามเนื้อมดลูกปริแตกจนไม่สามารถกลับมาตั้งท้องได้อีก หรืออาจจะทำให้มีอาการตกเลือดอย่างรุนแรงจนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
